Blog

restylane-all-box-product

Restylane คือ อะไร ฟิลเลอร์ Restylane มีกี่รุ่น ต่างกันอย่างไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง ฟิลเลอร์ Restylane ราคาเท่าไร

รู้จักกับฟิลเลอร์ Restylane มีกี่รุ่น ต่างกันอย่างไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง ราคาเท่าไร

ด้วยวิถีชีวิตของคนในปัจจุบัน อาจทำให้เกิดปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาหย่อนคล้อย เราทราบกันดีว่ามันก็มีทางแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ อย่างเช่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่การฉีดฟิลเลอร์โดยทั่วไปแล้วจะต้องมีการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา เรื่องยี่ห้อ เรื่องคุณสมบัติของฟิลเลอร์ โดยเฉพาะฟิลเลอร์ใต้ตาที่มีหลายยี่ห้อ แต่ก็ไม่ใช่ทุกยี่ห้อจะสามารถนำไปฉีดใต้ตาแล้วได้ประสิทธิภาพดี ในบทความนี้เราเลยจะมาดูกันว่า ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane คืออะไร? มีรุ่นไหนบ้าง? ต่างกันอย่างไร? ฉีดตรงไหน? อยู่ได้นานแค่ไหน? ราคาเท่าไหร่? ข้อเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น และวิธีเตรียมตัวก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ ศึกษาเพิ่มเติมได้ในบทความนี้เลย

สารบัญบทความเรื่องฟิลเลอร์ Restylane
    Add a header to begin generating the table of contents

    ฟิลเลอร์ restylane คืออะไร ดีไหม?

    Filler Restylane หรือฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane คือ สารเติมเต็มผิวประเภทไฮยาลูรอนิคแอซิด (HA) ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ผลิตโดยบริษัท Galderma จากประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นบริษัทยาที่ผลิตฟิลเลอร์ยี่ห้อแรกของโลก โดยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตจากสหภาพยุโรป รวมทั้งการรับรองและขึ้นทะเบียน FDA ของประเทศไทยและเกาหลีใต้ด้วย

    ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane มีเทคโนโลยีการผลิตลิขสิทธิ์เฉพาะ 2 เทคโนโลยี

    • NASHA technology (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid Technology) เป็นเทคโนโลยีการผลิตให้เส้นใยของ HA ทำงานได้ดีร่วมกับการ crosslink เพื่อให้ฟิลเลอร์มีความละเอียด มีความยืดหยุ่นและมีความคงตัว โดยเฉพาะคุณสมบัติด้านการกักเก็บโมเลกุลของน้ำ 
    • OBT technology (Optimal Balance Technology) เป็นเทคโนโลยีการผลิตเน้นความยืดหยุ่นสูง  มีความคงตัว สามารถปรับรูปทรงได้และมีการกระจายตัวได้ดี

    ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม? ด้วยเทคโนโลยีการผลิตและคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของการดึงโมเลกุลของน้ำเข้ามากักเก็บไว้ในตัวฟิลเลอร์ จึงช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก ช่วยเติมเต็มจุดบกพร่องและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี การันตีจากประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติที่โดดเด่น มีการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอและเป็นที่นิยมมากในทั่วทุกมุมโลก

    ฟิลเลอร์ Restylane รุ่นต่างๆ
    restylane-all-box-product

    ฟิลเลอร์ restylane มีรุ่นไหนบ้าง แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ฉีดตรงไหน?

    1. Restylane Perlane Lyft มีส่วนผสมของยาชา เนื้อเจลแข็งแรง มีความคงตัว ไม่ฟูและมีแรงยกกระชับสูง เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตา ฉีดจมูก เติมแก้ม เติมขมับ เติมคาง สร้างกรอบหน้า ยกกระชับ ปรับรูปหน้าและทำฟิลเลอร์แก้มส้ม อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน

    2. Restylane Defyne มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลอ่อนนุ่มแต่ยังคงขึ้นรูป เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก โหนกแก้ม คาง การยกกระชับและปรับรูปหน้า โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบาง อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน

    3. Restylane Vital Light มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลเล็กที่สุด นิ่มที่สุด เกลี่ยง่าย นิยมใช้ในผิวพื้นที่ใหญ่ๆ ใช้แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็กน้อย ได้แก่ เติมเต็มร่องน้ำตา ลดใต้ตาคล้ำ ลดร่องลึกใต้ตา เติมเต็มหน้าผาก ฟิลเลอร์ปาก หลังมือ หลุมสิว ปรับผิวกระจ่างใสและทำให้ดูอ่อนเยาว์ อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
      Restylane-Vital-Light
    4. Restylane Volyme มีส่วนผสมของยาชา เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความฟูตัว นิยมใช้ในการเติมเต็มใบหน้าให้อิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ เติมเต็มแก้ม ขมับและสามารถใช้ยกกระชับได้ อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
      Restylane Volyme1
    5. Restylane Refyne มีส่วนผสมของยาชา เนื้อเจลมีโมเลกุลเล็ก ยืดหยุ่นสูง ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก จึงใช้เติมเต็มริ้วรอยร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ริ้วรอยเล็กๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบางเนื้อเจลจะกลืนกับผิวได้ดี อยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน
      restylane-filler1
    6. Restylane Classic มีส่วนผสมของยาชา เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีอนุภาคใหญ่ สำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยปานกลางถึงมาก นิยมใช้ในการฉีดเติมเต็มริ้วรอยตื้นๆ ได้แก่ เติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ฟิลเลอร์ปาก รอยขมวดคิ้ว จะอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
      restylanez-classic_box

    ฟิลเลอร์ restylane ฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน?

    ฟิลเลอร์ restylane เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัย สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติและสามารถเติมได้ โดยปกติแล้วจะอยู่ได้นานตั้งแต่ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้และบริเวณที่เลือกฉีด

    เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ restylane กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น

    • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากบริษัท Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับความนิยมมาก มีการใช้เทคโนโลยี Vycross จึงสามารถยกกระชับผิวหน้าได้ดีและดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะอยู่ได้นานประมาณ 24 เดือนแต่ราคาต่อ CC ค่อนข้างสูง
    • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ neuramis เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี มีราคาย่อมเยากว่า นิยมใช้ในการเติมเต็ม เพิ่มวอลลุ่มให้กับผิว อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน แต่ไม่นิยมใช้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพราะอาจจับตัวเป็นก้อนได้

    ฟิลเลอร์ restylane ราคาเท่าไร?

    Filler Restylane ราคาเริ่มต้นที่ CC ละประมาณ 12,000 – 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้ โดยคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินว่า จะต้องใช้รุ่นไหนในการแก้ไขปัญหาแต่ละจุดและใช้ทั้งหมดกี่ซีซี

    วิธีตรวจสอบ ฟิลเลอร์ restylane แท้หรือปลอม? เบื้องต้น

    ในปัจจุบันมีผู้นำเข้าฟิลเลอร์ restylane อย่างผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรือนำเข้ามาฉีดแบบไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ที่ต้องการฉีดควรจะมีความรู้พื้นฐานเบื้องต้นในการตรวจสอบฟิลเลอร์ restylane ว่าเป็นของแท้ หรือของปลอม โดยดูจาก

    • ติดต่อบริษัท Galderma ผู้ผลิต โทร. 02-0231800 ต่อ 402 เพื่อตรวจสอบว่า คลินิก หรือสถานพยาบาลที่ใช้บริการว่ามีการสั่งโดยตรงจากบริษัทจริงหรือไม่
    • ดูรอยปรุสำหรับเปิดกล่องว่าจะต้องไม่มีการเปิดใช้มาก่อน เอกสารกำกับยาข้างกล่องจะต้องมีป้ายภาษาไทยและเอกสารบ่งชี้การใช้งานภาษาไทยในกล่อง
    • มีสติ๊กเกอร์โฮโลแกรมสีทองติดอยู่ข้างกล่อง เห็นเงาสะท้อนของชื่อบริษัท Galderma โดยเลขล็อตที่ข้างกล่องและเลขล็อตที่หลอดจะต้องตรงกัน นอกจากนี้อาจจะตรวจสอบราคาที่ติดอยู่บนกล่องด้วยก็ได้

    วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

    1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการรักษา

    • งดยาประเภทแอสไพริน, NSAIDs, วิตามินทุกประเภทและยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว
    • งดการแวกซ์ผิว ผลัดเซลล์ผิว การทำหน้า หรือการทำเลเซอร์ การดึงขน หรือโกนขนในบริเวณที่ต้องการรักษา
    • แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือยารักษาโรคที่ต้องกินเป็นประจำ เพื่อขอคำแนะนำ

    24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการรักษา

    • งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
    • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การเข้าซาวน่า การออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง เป็นต้น
    how to do after get filler

    วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

    • ภายใน 24 ชั่วโมงหลังเข้ารับการรักษา หากมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ คัน ระคายเคือง ให้หลีกเลี่ยงการแกะ เกา อาการที่เกิดขึ้นจะหายไปเองหลังจากการรักษาประมาณ 3-5 วัน หากมีอาการหนักมากให้รีบติดต่อแพทย์ผู้ทำการรักษาโดยเร็วที่สุด
    • ภายใน 48 ชั่วโมงหลังเข้ารับการรักษา ให้หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
    • สามารถทำการประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์ ร่วมกับการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
    ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
    dr ben malika clinic 02

    หากอ่านมาถึงตรงนี้และต้องการคำปรึกษา คำแนะนำ เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใต้ตา ปาก ร่องแก้ม หรือบริเวณอื่นๆ สามารถติดต่อสอบถามพูดคุยกับหมอเบญที่คลินิก Malika Clinic by dr. Ben ตั้งอยู่ย่าน ลาดพร้าว – วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67) เบอร์โทร 095-450-9355 หรือแอดไลน์ Line ID: @malikaclinic ส่งรูปมาให้หมอเบญประเมินก่อนรับบริการจริงได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย หมอเบญตอบแชตเองค่ะ

    belotero filler box

    รู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero ฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดีไหม มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร?

    รู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero ฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดีไหม มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร?

    การฉีดฟิลเลอร์ถือว่าเป็นเทคโนโลยีการฉีดสารเติมเต็มผิว ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพื่อช่วยเติมเต็มในชั้นผิวให้กักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นเอาไว้ รวมไปถึงการเติมเส้นใยคอลลาเจน คืนความยืดหยุ่นให้แก่ผิว กระตุ้นให้ผิวดูอ่อนเยาว์ที่สาวๆคู่ควร แต่จริงๆแล้วฟิลเลอร์นั้นมีหลายยี่ห้อและมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ในบทความนี้เราเลยจะมาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดีไหม? มีกี่รุ่น? แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร? ศึกษาได้ในบทความนี้

    สารบัญบทความเรื่องฟิลเลอร์ Belotero
      Add a header to begin generating the table of contents

      รู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero

      Filler Belotero คือ ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผลิตจากสารไฮยาลูรอนิคแอซิดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยเทคโนโลยี CPM และ HA ที่เข้มข้น มีการนำเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งผ่านการขึ้นทะเบียนองค์การอาหารและยาในยุโรป ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยอย่างถูกต้อง แถมยังได้รับ 2 รางวัลความงามจากยุโรปเพื่อการันตีความมีคุณภาพอีกด้วย

      บางคนเรียกฟิลเลอร์นี้ว่า “Colorfull Filler” เนื่องจากมีคุณสมบัติที่หลากหลายและแบ่งเป็นรุ่นย่อยๆหลายๆรุ่น ทำให้แพคเกจมีสีสันสดใสสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุด โดย Belotero เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากในการฉีดสารเติมเต็มผิวเพราะมีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึก หลุมสิวและทำให้ผิวเต่งตึง รวมทั้งการแก้ไขข้อบกพร่องของใบหน้าได้ทันใจ

      ฟิลเลอร์ Belotero รุ่นต่างๆ
      belotero filler box

      Belotero filler ดีไหม ?

      ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มผิวประเภท hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่กระบวนการผลิตและคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะถูกผลิตออกมาให้มีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของคุณสมบัติ โมเลกุล เนื้อสัมผัสและความทนทาน ดังนั้นฟิลเลอร์จึงถูกผลิตออกมาหลายรุ่น หลายยี่ห้อและไม่มียี่ห้อไหนที่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ครอบคลุมทุกจุด ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นก็จะเหมาะกับปัญหาที่แตกต่างกันไป belotero filler ดีไหม? ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นและสภาพผิวของแต่ละเคสเป็นอย่างไรมากกว่า การฉีด Belotero filler จะเห็นผลลัพธ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นถ้าหากได้รับการรักษาจากแพทย์ที่มีความรู้ ประสบการณ์ในการประเมินปัญหา สภาพผิว ปริมาณที่ใช้และเทคนิคในการฉีดให้เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุดนั่นเอง

      Belotero filler มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร เหมาะกับการฉีดตรงไหน

      • Belotero Volume กล่องสีม่วง (มีส่วนผสมของยาชา) มีความโดดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติในการคงตัวและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาผิวหน้าในระดับลึก สามารถช่วยแก้ไขปัญหารูปหน้าและฉีดเติมเต็มเสริมส่วนที่ไม่เข้ารูปได้ นิยมใช้ belotero ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย รวมทั้งฉีดใบหน้า คาง ขมับและโหนกแก้มเพื่อปรับรูปหน้าให้สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะในกรณีที่ปัญหานั้นๆเกิดจากการทรุดตัวของกระดูกใบหน้า
        belotero volume
      • Belotero Balance กล่องสีส้ม นิยมใช้แก้ไขปัญหาริ้วรอยระดับลึกถึงปานกลาง เพราะจะช่วยปรับริ้วรอยร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม ดูชุ่มชื่น สามารถใช้ฉีดได้หลายบริเวณ เช่น เติมเต็มแก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอยย่นระหว่างคิ้ว รอบริมฝีปากและนิยมใช้ฉีดริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มอีกด้วย 
        belotero balance
      • Belotero Soft กล่องสีเหลือง มีความโดดเด่นอยู่ที่มีเนื้อสัมผัสละเอียด โมเลกุลเล็ก จึงนิยมใช้ฉีดในการเก็บรายละเอียดต่างๆได้ดี ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากผิวชั้นนอกและผิวที่ไม่ได้มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกมากนัก เช่น การแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตาและร่องลึกใต้ตา ฉีดลดรอยตีนกา ริ้วรอยบริเวณหางตา หรือรอยย่นที่หน้าผากและปากตกร่องได้ เป็นต้น
        belotero soft
      • Belotero Intense กล่องสีชมพู (มีส่วนผสมของยาชา) มีความโดดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติในการคงตัวและมีความยืดหยุ่นสูง สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกมากๆได้ดีแต่ก็ไม่เป็นก้อนๆ ฉีดแล้วทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง หรือริ้วรอยแห่งวัยก็สามารถช่วยได้ เช่น การเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม การเติมแก้มตอบ การเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม เป็นต้น จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า หรือผู้ที่มีอายุ
        belotero intence

      Belotero filler ราคาเท่าไร แพงไหม

      filler belotero ราคาเริ่มต้นที่ CC ละ 13,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้งานและสถานบริการที่เลือก ส่วนจะใช้กี่ CC นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป อย่าลืมเลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์ในการรักษาเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น

      Belotero filler อยู่ได้นานไหม เทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น

      Belotero filler โดยปกติแล้วอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ​​belotero ซึ่งเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นๆแล้วถือว่ามีความคงตัวและอยู่ได้นานกว่า เพราะโดยปกติฟิลเลอร์จะอยู่ได้นาน 6-12 เดือนเท่านั้น

      dermal filler or fat transfer

      วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

      • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ช่วง 12 ชั่วโมงแรก ให้งดการแตะ แกะ เกา หรือสัมผัสใบหน้า รวมทั้งการนวดหน้า ขัดหน้า แต่งหน้า หรือทำทรีทเม้นใดๆเพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัว
      • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ภายใน 48 ชั่วโมง ให้งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
      • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ภายใน 14 วัน ให้งดการอยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อนจัด หรือเย็นจัด เช่น การอบซาวน่า สตรีม การแช่ออนเซ็น การเล่นสกี เป็นต้น

      สรุปฟิลเลอร์ Belotero filler

      การฉีด​​belotero filler ถือว่ามีความคุ้มค่าในเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้รับเพราะอยู่ได้นานถึง 18 เดือนแต่การฉีดฟิลเลอร์นั้นจะต้องอาศัยแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ในการประเมินการรักษาให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข รุ่น จำนวนซีซีที่ใช้ฉีด รวมทั้งเทคนิคในการฉีดเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความคุ้มค่ามากที่สุด หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจจะทำให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่ต้องการและอาจจะต้องเสียเงิน เสียเวลาเพิ่มในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการฉีดผิดพลาดได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมเลือกสถานบริการที่มีมาตรฐานในการให้บริการ มีเครื่องไม้เครื่องมือและอุปกรณ์การรักษาที่มีคุณภาพเพื่อความปลอดภัยในการเข้ารับบริการของตัวคุณเอง

      ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
      dr ben malika clinic 02

      หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วผู้อ่านต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ สามารถแอดไลน์ Line ID: @malikaclinic หรือโทรเบอร์ 095-450-9355 และสามารถเข้ามาที่คลินิกที่ Malika Clinic by Dr. Ben ตั้งอยู่ย่าน ลาดพร้าว – วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67) หมอเบญยินดีประเมินเบื้องต้น, ให้คำปรึกษาค่ะ และตอบแชตเองค่ะ

      botulax box malika clinic

      โบท็อกซ์ Botulax คืออะไร ดีไหม อยู่ได้นานไหม ใช้กี่ยูนิต Botulax ต่างกับโบท็อกยี่ห้ออื่นอย่างไร

      โบท็อกซ์ Botulax คืออะไร ดีไหม อยู่ได้นานไหม ใช้กี่ยูนิต Botulax ต่างกับโบท็อกยี่ห้ออื่นอย่างไร

      เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยศึกษาเกี่ยวกับ Botox กันมาบ้างแล้วแต่ว่าในปัจจุบันมี Botox หลายชนิดและหลายยี่ห้อที่ผลิตออกมาเพื่อสนองความต้องการที่แตกต่างกัน รวมทั้งราคาและคุณภาพที่แตกต่างกันไปด้วย แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า Botox ชนิดไหนเหมาะกับอะไร ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ Botox botulax ว่า botulax คืออะไร? ดีไหม? อยู่ได้นานไหม? ใช้กี่ยูนิต? มาดูความแตกต่างของ botulax กับโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ เช่น  Allergan และโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นๆอย่างไร ติดตามดูได้ในบทความนี้

      สารบัญบทความเรื่องโบท็อก Botulax
        Add a header to begin generating the table of contents

        Botulax คือ อะไร

        Botox botulax คือ โบท็อกแบรนด์ยอดนิยมจากประเทศเกาหลีใต้ เป็นโปรตีนสังเคราะห์ที่เรียกว่า BotulinumtoxinA ที่ผลิตให้มีความคล้ายคลึงกับสารสำคัญในร่างกายของมนุษย์ ใช้ในการฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย ตีนกาและริ้วรอยร่องลึก ช่วยให้หน้าเรียวเล็ก ยกกระชับกรอบใบหน้า ลดกราม น่องและกล้ามแขน ในปัจจุบันเป็นที่นิยมในประเทศไทยมากเพราะเป็น Botox ที่มีความอ่อนโยนและบริสุทธิ์แต่มีราคาไม่แพงและให้ผลลัพธ์ที่ดีสมราคา

        โบท็อก Botulax ขนาด 100 ยูนิต
        botulax box malika clinic

        Botulax ดีไหม

        Botox botulax ได้รับการผลิตมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยมีจุดมุ่งมั่นเพื่อให้โบท็อกซ์มีคุณภาพเทียบเท่ากับ Botox จากประเทศสหรัฐอเมริกาแต่เป็นราคาที่เอื้อมถึง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว Botox botulax ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศเกาหลีว่า มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพไม่แพ้กับยี่ห้ออื่นๆเลย อาจจะแตกต่างกันในด้านของระยะเวลาการคงอยู่ที่สั้นกว่า แต่ก็ยังคงเรียกได้ว่าเป็น Botox ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพที่ดีอีกหนึ่งยี่ห้อเลยก็ว่าได้

        Botox Botulax อยู่ได้นานไหม

        โดยปกติแล้ว Botox botulax ที่เป็นของแท้และมีมาตรฐานผ่าน อย. มักจะให้ผลลัพธ์อย่างชัดเจนภายใน 7-30 วันและอยู่ได้นาน 3-5 เดือน (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลด้วย) ซึ่งจะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย หากต้องการผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องสามารถฉีดซ้ำได้ตามความพึงพอใจและการประเมินของแพทย์ ส่วน Botox botulax ที่เป็นของปลอมอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ จึงควรทำการตรวจสอบในเรื่องของผลิตภัณฑ์และราคากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความมั่นใจ

        ฉีดโบท็อก Botulax ต้องใช้กี่ยูนิต? Botulax 100u, Botulax 200u ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

        การฉีด Botox botulax จะต้องใช้กี่ยูนิตนั้น ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการแก้ไขปัญหามากกว่า บริเวณที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ได้แก่ การลดเลือนริ้วรอย ลดกรามและแก้ไขปัญหาผิวไม่สดใส ซึ่งแพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้ทำการประเมินว่าควรจะใช้กี่ยูนิต โดยแต่ละยี่ห้อก็จะมีการกำหนดจำนวนยูนิตที่ใช้ให้เหมาะสมตามตำแหน่งที่ต้องการทำการรักษา เช่น

        • Botulax 100u ใช้ฉีดบริเวณใบหน้า ยกกระชับกรอบใบหน้า ช่วยเก็บรูปหน้าให้สมบูรณ์แบบ ช่วยให้ใบหน้าเรียวเล็ก ลดริ้วรอย
        • Botulax 200u ใช้ฉีดลดน่อง ต้นแขนและลดเหงื่อใต้รักแร้
        botulax-vs-neuronox-1

        Botulax กับ Neuronox ต่างกันยังไง

        Neuronox กับ Botulax โบท็อกทั้ง 2 ยี่ห้อนี้มาจากประเทศเกาหลีทั้งคู่ ซึ่งมีจุดเหมือนกันตรงที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับยี่ห้อ Allergan ของประเทศสหรัฐอเมริกาแต่หากพูดถึงความแตกต่าง Neuronox จะมีการกระจายตัวค่อนข้างแคบแต่มีความแม่นยำสูง ซึ่งเป็นจุดเด่นในการออกฤทธิ์เฉพาะจุดได้ดีแต่ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่นัก ส่วน Botulax จะกระจายตัวได้กว้างกว่า ออกฤทธิ์ไวกว่าและมีความเป็นธรรมชาติกว่า Neuronox แต่ก็มีระยะเวลาการคงตัวอยู่ที่น้อยกว่าด้วยเช่นกัน

        Botulax ต่างกับโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นอย่างไร

        โบท็อกเกาหลีที่นิยมในประเทศไทย ได้แก่  Botulax, Aestox, Hugel และ Nabota ซึ่ง Botox แต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น Nabota เป็น Botox เกาหลียี่ห้อเดียวที่ได้รับการรับรองจาก อย.ประเทศสหรัฐอเมริกา มีจุดเด่นที่ออกฤทธิ์ไว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน ส่วน Aestox เป็นยี่ห้อที่ได้รับการรับรองจาก อย. ของประเทศไทย มีจุดเด่นที่ความบริสุทธิ์ของตัวยาถึง 99.5% ส่วน Botulax กระจายตัวได้กว้าง ออกฤทธิ์เร็ว ในราคาที่ย่อมเยาว์ เป็นต้น

        Botulax ต่างกับ Allergan อย่างไร

        Allergan เป็น Botox ที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือเรียกได้ว่าเป็น Botox ต้นกำเนิดเจ้าแรกที่ได้รับการรับรองจาก อย.และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก ด้วยจุดเด่นที่มีความบริสุทธิ์และอ่อนโยนต่อร่างกาย ซึ่งทำให้การดื้อโบท็อกมีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ระยะเวลาคงตัวอยู่ได้นานและมีความเป็นธรรมชาติสูงมากแต่ก็มีราคาที่สูงมากด้วยเช่นกัน ส่วน Botulax เป็นแบรนด์โบท็อกจากประเทศเกาหลีที่พัฒนาให้มีคุณภาพ อาจจะอยู่ได้ในระยะเวลาที่สั้นลง ในราคาที่จับต้องได้มากกว่า

        หมอเบญไขข้อสงสัย โบท็อกแต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร

        ข้อสรุปของการเลือกใช้โบท็อกซ์

        สำหรับใครที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ Botox ยี่ห้อไหนดี ไม่ว่าจะเป็น Botox เกาหลีหรือ Botox ประเทศไหนๆ ขอแนะนำให้ทำการเลือก Botox จากลักษณะเด่นและปัญหาของผิวที่ต้องการจะแก้ไขโดยทำการปรึกษากับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ว่า ปัญหาในแต่ละจุดจะต้องมีการแก้ไขด้วยโบท็อกยี่ห้อไหนและใช้กี่ยูนิต ซึ่งแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปตามสภาพใบหน้า อย่างไรก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับการเลือกสถานบริการที่ได้มาตรฐานและมีการใช้ Botox ที่เป็นของแท้และได้คุณภาพเพื่อการรักษาที่ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและความปลอดภัยต่อร่างกายของคุณเอง

        ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
        dr ben malika clinic 02

        หากผู้อ่านอ่านมาถึงตรงนี้และมีความสนใจในการฉีดโบท็อกซ์ หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมหรือปรึกษาเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ สามารถติดต่อสอบถามเพื่อพูดคุยกับหมอเบญที่คลินิก Malika Clinic by dr. Ben ตั้งอยู่ย่าน ลาดพร้าว – วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67) เบอร์โทร 095-450-9355 หรือแอดไลน์ Line ID: @malikaclinicหมอเบญตอบแชตเองค่ะ

        filler cheek malika clinic

        ฟิลเลอร์ แก้มตอบ เพิ่มความอวบอิ่มให้ใบหน้า แก้ปัญหาแก้มตอบแบบไม่ต้องศัลยกรรม

        ฟิลเลอร์ แก้มตอบ เพิ่มความอวบอิ่มให้ใบหน้า แก้ปัญหาแก้มตอบแบบไม่ต้องศัลยกรรม

        ถึงแม้ว่ากระแสหน้าเรียวจะมาแรงมากในปัจจุบันแต่ถ้าหน้าเรียวแล้วก็ต้องดูสุขภาพดีด้วย ไม่ใช่ว่าหน้าเรียวแต่ก็แก้มตอบไปในเวลาเดียวกัน แก้มที่ตอบจนเกินไปจะทำให้โหนกแก้มเด่นชัด ผู้หญิงหลายๆคนเป็นกังวลเพราะมันจะทำให้หน้าดูดุๆ ดูแก่เกินวัยและไม่สวย ในปัจจุบันก็มีวิธีแก้ไขได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการฉีดไขมัน การผ่าตัดศัลยกรรม หรือการฉีดฟิลเลอร์ แก้มตอบ ในบทความนี้เราจะมาดูปัญหาเรื่องแก้มตอบของผู้หญิง การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบช่วยได้จริงหรือไม่? มีประโยชน์อย่างไร? ต้องใช้กี่ cc? ศึกษาเพิ่มเติมได้ในบทความนี้เลย!

        สารบัญบทความ คำถามที่หลายๆคนสงสัยเรื่องฟิลเลอร์แก้มตอบ
          Add a header to begin generating the table of contents

          แก้มตอบ คือ อะไร ปัญหาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

          แก้มตอบ คือ โครงสร้างของใบหน้าบริเวณแก้มที่มีกระดูกมากกว่าเนื้อ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ เนื้อแก้มหายไปนั่นเอง จริงๆแล้วแก้มตอบเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน ได้แก่ พันธุกรรม อายุ การลดน้ำหนัก หรือภาวะน้ำหนักตัวน้อย (จนเกินไป) การจัดฟัน หรือการถอนฟัน รวมทั้งการฉีดโบท็อกกรามจากความผิดพลาดทางเทคนิคของแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ไม่ว่าแก้มตอบจะเกิดด้วยปัญหาใด ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้หญิงหนักใจ เพราะปัญหาแก้มตอบจะทำให้แก้มเป็นแอ่งยุบ ใบหน้าโดยรวมดูแก่กว่าวัย ดูโทรม ไม่สดใส ไม่สุขภาพดี โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูปจะเห็นได้อย่างชัดเจน

          ก่อนทำ หลังทำ ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบกับหมอเบญ
          filler cheek malika clinic

          ฟิลเลอร์ แก้มตอบ ช่วยได้หรือไม่?

          ฟิลเลอร์ แก้มตอบ (Hollow cheek filler) เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเนื้อแก้มที่หายไป หรือปัญหาเนื้อแก้มยุบตัวไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากปัจจัยใดก็ตาม สามารถช่วยผู้ที่มีแก้มตอบให้มีแก้มเต็มอิ่มมากขึ้นด้วยการฉีดสาร Hyaluronic Acid (Hyaluronic acid หรือ HA) เพื่อเติมเต็มใบหน้าได้อย่างตรงจุด ให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม มีน้ำมีนวล ดูสุขภาพดีและดูเด็กกว่าวัยโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด

          ฟิลเลอร์ แก้มตอบ แก้ปัญหาอะไรบ้าง? ไม่ได้ช่วยแค่แก้มตอบอย่างเดียว

          การฉีดฟิลเลอร์ แก้มตอบ สามารถแก้ปัญหาใบหน้าได้หลายจุด ไม่ได้ช่วยแค่แก้มตอบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ได้แก่

          1. แก้ปัญหาแก้มตอบ ปัญหาเนื้อแก้มหาย แก้มยุบเป็นอ่าง
          2. แก้ปัญหาเรื่องโหนกแก้มสูง หน้าดูเหลี่ยมๆ หน้าดูดุ
          3. ช่วยยกกระชับใบหน้าส่วนล่างที่ตกห้อยจากแก้มที่ตอบ
          4. ช่วยปรับปรุงโหงวเฮ้งใบหน้าและเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น
          5. สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูลอนิคแอซิดจะช่วยฟื้นฟูให้ผิวหนังดูอิ่มเอิบ มีน้ำมีนวล ดูมีเลือดฝาดจะดูสุขภาพดี นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวยืดหยุ่นและดูเด็กกว่าวัย
          6. ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มผิวให้เรียบเนียน ช่วยกระชับรูขุมขนและลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยให้ดูตื้นลงอย่างเห็นได้ชัด
          ก่อนทำ หลังทำ ฉีดฟิลเลอร์ปากกับหมอเบญ
          Filler indian line malika

          ฟิลเลอร์ แก้มตอบ ใช้กี่ CC

          การฉีดฟิลเลอร์ แก้มตอบ โดยปกติแล้วจะใช้ข้างละประมาณ 1-2 CC ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าและปัญหาของแต่ละบุคคล โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมินว่าควรจะใช้จำนวนเท่าไหร่และควรใช้ฟิลเลอร์ประเภทไหนเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ

          ฟิลเลอร์ แก้มตอบ อยู่ได้นานไหม

          การฉีดฟิลเลอร์ แก้มตอบ อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและประเภทของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ โดยปกติแล้วฟิลเลอร์ที่ดีและมีคุณภาพจะสามารถสลายตัวได้เองและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้นหากรู้สึกว่าฟิลเลอร์แก้มตอบเริ่มสลายตัว สามารถขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ดูแลเพื่อทำการเติมฟิลเลอร์ได้ตามที่ต้องการ

          ฟิลเลอร์ แก้มตอบ ยี่ห้อไหนดี และควรใช้รุ่นไหน

          ฟิลเลอร์ แก้มตอบ ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่สามารถอยู่ได้นาน โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและจะต้องมีความเหมาะสมกับลักษณะสภาพผิวด้วย (ผู้ที่มีแก้มตอบมักจะมีผิวที่ค่อนข้างบางและมีชั้นไขมันในผิวน้อยมาก) ส่วนมากแพทย์จะนิยมใช้ Restylane Volyme และ Juvederm Voluma หรือรุ่น Volift เนื่องจากมีคุณสมบัติในการกระจายตัวได้ดี เติมเต็มได้สมบูรณ์แบบและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

          ฟิลเลอร์ แก้มตอบ ราคา เท่าไร ที่ไหนดี

          การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณที่เลือกใช้และสถานบริการ โดยราคาจะอยู่ที่ CC ละประมาณ 12,000-14,000 บาท อาจจะถูกกว่านี้ถ้าคลินิกจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในช่วงเวลานั้นๆ ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ แก้มตอบ ฉีดที่ไหนดี?​ในฐานะที่เป็นผู้บริโภค การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือในคุณภาพการให้บริการนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะการมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลเคสแต่ละเคสได้อย่างชำนาญ นอกจากนี้การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและมีระดับราคาที่เหมาะสมก็จะช่วยให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายมากยิ่งขึ้นด้วย

           อย่างไรก็ตามการฉีดฟิลเลอร์ แก้มตอบ จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลเคสเพื่อประเมินยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ จำนวนที่ใช้ ราคาจากปัญหาและสภาพของผิวหน้าแต่ละคน ร่วมกับการปรึกษาทางคลินิกว่ามีโปรโมชั่นดีๆที่คุ้มค่าจะช่วยให้การรักษาของคุณแฮปปี้มากยิ่งขึ้นได้

          วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ แก้มตอบ

          1. หลังฉีดฟิลเลอร์ แก้มตอบ ตรงบริเวณที่ฉีดอาจมีอาการบวม แดง ช้ำแต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปเองและดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
          2. หลีกเลี่ยงการสัมผัส การแกะ การเกา การกดนวด การขัดผิวในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ แก้มตอบ
          3. หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนสัมผัสใบหน้าทุกชนิด เช่น การอบซาวน่า การล้างหน้าด้วยน้ำร้อน การเลเซอร์  รวมทั้งการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงและการขยับใบหน้าเยอะๆ อาจมีความเสี่ยงต่อการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ได้
          4. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
          5. ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างสม่ำเสมอและเคร่งครัด หากมีอาการผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์โดยด่วนที่สุด
          ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
          dr ben malika clinic 02

          สอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับฟิลเลอร์แก้มตอบ แก้มส้ม สามารถแอดไลน์ Line ID: @malikaclinic หรือเบอร์ 095-450-9355 และสามารถเข้ามาที่คลินิกที่ Malika Clinic by Dr. Ben ตั้งอยู่ย่าน ลาดพร้าว – วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67) หมอเบญยินดีประเมินเบื้องต้น, ให้คำปรึกษาค่ะ และตอบแชตเองค่ะ

          Filler lips malika

          ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์ปากสายฝอ ใช้กี่ CC ฟิลเลอร์ปาก ราคา เท่าไร รวมทุกเรื่องของฟิลเลอร์ปาก

          ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์ปากสายฝอ ใช้กี่ CC ฟิลเลอร์ปาก ราคา เท่าไร รวมทุกเรื่องของฟิลเลอร์ปาก

          ใครๆก็รู้จักแฟชั่นสาวสายฝอที่กำลังมาแรงมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศัลยกรรมหน้าตา เทรนการแต่งตัว เทรนแต่งหน้าและเทรนการเสริมความงาม ซึ่งการเสริมความงามที่ช่วยให้คุณมีลุคแบบสายฝอได้ นั่นก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ปาก ด้วยความอวบอิ่มและความเป็นทรงสวยได้รูปทำให้ใบหน้าของคุณมีความโดดเด่นและดูเด็กลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่คุณแต่งหน้าตามเทรนด้วยแล้ว รับรองว่า คุณเองก็เป็นสายฝอได้ง่ายๆ นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ใบหน้าได้อีกด้วย ในบทความนี้เราเลยจะมาดูกันว่าฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี? ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอต้องใช้กี่ cc? ฟิลเลอร์ปากราคาประมาณเท่าไหร่? เรารวมทุกเรื่องที่เกี่ยวกับฟิลเลอร์ปากไว้ที่นี่แล้ว ศึกษาเพิ่มเติมได้ในบทความนี้เลย!

          สารบัญบทความ คำถามที่หลายๆคนสงสัยเรื่องฟิลเลอร์ปาก
            Add a header to begin generating the table of contents

            ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม อันตรายไหม

            สาวๆหลายๆคนอยากจะฉีดฟิลเลอร์แต่ก็กลัวเจ็บ กลัวว่าจะเป็นอันตราย ขอบอกตรงนี้เลยว่า การฉีดฟิลเลอร์ปากอาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในขณะที่เข็มทิ่มเข้าไป ส่วนอันตรายไหม? ก็ขอตอบว่า การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย  หากฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ก็ยิ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ได้ตรงตามความต้องการและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด เป็นฟิลเลอร์ที่สังเคราะห์ขึ้นมาให้มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับโปรตีนในร่างกาย ประเภทไฮยาลูรอนิคแอซิด หรือกรด HA ซึ่งสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ รวมทั้งผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยอีกด้วย

            ก่อนทำ หลังทำ ฉีดฟิลเลอร์ปากกับหมอเบญ
            Filler lips malika

            ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไรบ้าง

            หลายๆคนมีปัญหาเกี่ยวกับริมฝีปาก ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากบาง ริมฝีปากไม่เท่ากัน ขนาดริมฝีปากบนและล่างไม่ได้สัดส่วน หรือบิดเบี้ยว รวมไปจนถึงการมีริมฝีปากทรงคว่ำและริมฝีปากดูไม่สวยงาม เช่น ริมฝีปากแห้งแตก ลอกเป็นขุย เป็นร่อง หรือมีขอบปากไม่ชัดเจน ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถแก้ปัญหาด้วยเทคนิคการเติมเต็ม การแต่งทรง การยกมุมปาก การฉีดขอบปากและการบำรุงฝีปากได้อย่างครบวงจร เหมาะสำหรับทุกคนที่ไม่อยากมองข้ามริมฝีปากที่สวยงามไป

            ไม่ใช่ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นที่เหมาะกับการฉีดปาก ฉีดฟิลเลอร์ปากควรเลือกยี่ห้อไหน?

            อย่างที่เราทราบกันดีว่าในปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็จะมีความแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติ  ความขึ้นรูป คุณภาพและราคา ไม่ใช่ว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนก็ฉีดปากได้ทั้งนั้น แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี?

            ฟิลเลอร์สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary filler) ที่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเพราะให้ผลยาวนาน 6-24 เดือน โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายและไม่เป็นอันตราย ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi–Permanent Filler) และฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) ที่เรารู้จักกันดีคือ พวกซิลิโคนและพาราฟิน ถึงแม้ว่าจะให้ผลยาวนานแต่ก็ยังไม่ผ่านการอนุญาตให้ใช้ในประเทศไทย 

            ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ปากจึงควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง มีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งต้องสามารถสลายตัวได้เอง โดยที่ไม่ทิ้งสารตกค้างใดๆ อย่างเช่นฟิลเลอร์แบบชั่วคราวและสามารถมาเติมได้หากต้องการตามคำแนะนำของแพทย์

            ก่อนทำ หลังทำ ฉีดฟิลเลอร์ปากกับหมอเบญ
            Filler lips malika

            เปรียบเทียบฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี

            ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Juvederm
            เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่นิยมมากที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด พูดถึงความปลอดภัย 100% แน่นอนเพราะได้รับการรับรองจาก อย. ของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย มีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยี Vycross และ Hylacross ช่วยเติมเต็ม ยกกระชับและอุ้มน้ำได้ดี เนื้อเรียบเนียนละเอียดจึงทำให้ดูเป็นธรรมชาติและยืดหยุ่นมาก มี 3 รุ่นด้วยกัน
            Juvederm all box model

            1. Juvederm Volift รุ่นนี้ถูกผลิตมาให้มีเนื้อนิ่ม ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนานถึง 12-18 เดือน ช่วยให้ปากกระชับได้รูป มีกระจับปากและขอบปากคมชัด แถมยังมีความเป็นธรรมชาติมากๆด้วย
            2. Juvederm Voluma รุ่นนี้มีเนื้อแข็งแต่มีความฟูปานกลาง  ช่วยให้ปากดูอวบอิ่มและให้ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนานถึง 18 เดือน
            3. Juvederm Ultra Plus รุ่นนี้ถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ช่วยให้ปากดูอวบอิ่ม เติมเต็มได้ดี เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอและอยู่ได้ประมาณ 12 เดือนเลยทีเดียว

            ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Restylane
            เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดนที่ได้รับความนิยมเช่นกัน จุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยี NASHA และ OBT ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้งานได้หลากหลายและคงตัวอยู่ได้นาน 6-18 เดือน แบ่งได้เป็น

            restylane-all-box-product

            1. Restylane Vital Light รุ่นนี้จะมีน้ำหนักเบา โมเลกุลเล็ก เหมาะสำหรับการแก้ไขริมฝีปากแห้ง ลอก แตกเป็นขุย หรือร่องลึกให้มีความชุ่มชื่น อวบอิ่มและอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
            2. Restylane Volyme เนื้อนิ่มปานกลาง ขึ้นรูปปาก และขึ้นทรงได้ดี โดยที่ยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและไม่เป็นก้อนอยู๋ อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
            3. Restylane Classic รุ่นนี้จะเป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา มีลักษณะเป็นเนื้อเจลแข็งปานกลาง นิยมใช้ในการเติมเต็มร่องลึก เช่นร่องปากให้มีความอวบอิ่ม เต็มฟูมากยิ่งขึ้น ซึ่งอยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน

            ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Neuramis
            เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีที่กำลังมาแรง สามารถขึ้นรูปปากได้ดี โดยให้ผลยาวนานประมาณ 6-8 เดือนแต่มีราคาถูกกว่าเท่าตัว (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์นิวรามิส)
            Neuramis boxes 02

            ฟิลเลอร์ปากสายฝอ เทรนด์ใหม่ล่าสุด ฉีดกี่ CC

            เทรนปากอวบอิ่มแบบสายฝอ จะเน้นไปที่รูปทรง Full lips และ Round lips เน้นความอวบอิ่มของปากให้ดูเซ็กซี่และน่าจูบ ซึ่งจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-3 CC หรือแล้วแต่สภาพปากของแต่ละบุคคล

            ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฉีดกี่ CC

            เทรนปากอวบอิ่มแบบสายฝอ จะเน้นไปที่รูปทรง Full lips และ Round lips เน้นความอวบอิ่มของปากให้ดูเซ็กซี่และน่าจูบ ซึ่งจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-3 CC หรือแล้วแต่สภาพปากของแต่ละบุคคล

            ฟิลเลอร์ปาก ราคา เท่าไร

            การฉีดฟิลเลอร์ปากขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไขและด้วยยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่มีหลากหลาย ราคาจึงแตกต่างกันไปตามฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ โดยราคาต่อ 1 CC จะประมาณ 6,000-15,000 บาท แต่หากอยากทราบราคาที่แม่นยำมากกว่านี้ จะต้องทำการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสถานบริการที่มีมาตรฐาน แพทย์จะเป็นผู้ประเมินจำนวน CC ที่ต้องการของผู้เข้ารับการรักษาแต่ละบุคคลค่ะ และในบางคลินิกอาจจะมีโปรโมชั่นลดราคาซึ่งอาจทำให้ราคาถูกลงมามากกว่านี้นั่นเองค่ะ

            วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

            1. หลีกเลี่ยงการจับ สัมผัส กด หรือนวดบริเวณที่ฉีด เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่อาจจะทำให้เกิดการผิดรูปทรงได้
            2. ดื่มน้ำให้ได้มากที่สุด  เพราะฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิคแอซิดเป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมากๆจะช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่ม ฟูและให้ผลลัพธ์ยาวนานมากยิ่งขึ้น
            3. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มร้อนร้อนๆและการสูบบุหรี่ อย่างน้อยหลังจากฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 48 ชั่วโมงเพื่อป้องกันอาการอักเสบ บวม หรือผิดรูปทรงได้
            ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
            dr ben malika clinic 02

            หากยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปากแบบไหน สามารถส่งรูปมาให้หมอเบญประเมินก่อนเข้ารับบริการจริงได้ที่ ID: @malikaclinic หรือเข้ามาที่คลินิกเพื่อให้หมอเบญประเมินก่อนได้เลยค่ะ คลิกนิกตั้งอยู่ที่ลาดพร้าว วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67) หมอเบญและทีมงานยินดีต้อนรับค่ะ

            dermal filler or fat transfer

            เติมไขมันหน้า หรือฉีดฟิลเลอร์ เลือกอย่างไหนดี วิธีไหนเหมาะกับใคร

            เติมไขมันหน้า หรือฉีดฟิลเลอร์ เลือกอย่างไหนดี วิธีไหนเหมาะกับใคร

            ทางเลือกสำหรับเคล็ดลับความงามและความเยาว์วัยในปัจจุบันมีหลายวิธี ซึ่งวิธีที่นิยมในกลุ่มสาวๆ นั่นก็คือ การเติมไขมันหน้าและการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งทั้งสองวิธีนี้มีความแตกต่างกัน ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกดูความแตกต่าง เติมไขมันหน้า หรือฉีดฟิลเลอร์เลือกอย่างไหนดี วิธีไหนเหมาะกับใครบ้างเพื่อแก้ไขความกระจ่าง สามารถศึกษาได้ในบทความนี้

            สารบัญบทความ คำถามที่หลายๆคนสงสัยเรื่องเติมไขมันและฉีดฟิลเลอร์
              Add a header to begin generating the table of contents

              ฉีดไขมันหน้า หรือเติมไขมันหน้า คืออะไร

              การเติมไขมันหน้า สามารถเรียกได้ว่าเป็น Fat Grafting, Fat Transfer, Fat Fillers หรือ Lipofilling ก็ได้ นั่นก็คือ การนำเซลล์ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายออกจากบริเวณที่ไม่ต้องการให้มีไขมันสะสม เช่น ต้นแขน ต้นขา น่อง เหนียง หน้าท้อง เป็นต้น เคลื่อนย้ายไปยังบริเวณที่ต้องการเพิ่มมิติให้มากขึ้น เช่น ใบหน้า แก้ม คาง ขมับ หน้าผาก เป็นต้น ซึ่งกระบวนการเติมไขมันหน้าจะช่วยให้บริเวณที่เติมไขมันดูอิ่มฟู ดูเต็มขึ้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่งและลดเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดี

              การทำงานของการเติมไขมันหน้า
              Fat transfer

              เติมไขมันหน้าแตกต่างกับฉีดฟิลเลอร์อย่างไร

              การเติมไขมันหน้า จะใช้เซลล์ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายที่เราไม่ต้องการ แล้วจึงนำไปเข้ากระบวนการสกัดตามขั้นตอนคัดกรองเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพ เพื่อนำกลับไปใช้ในการฉีดเติมเต็ม เพิ่มมิติให้กับร่างกายอีกครั้ง

              ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ ถึงแม้ว่าจะเป็นการฉีดเติมเต็ม เพิ่มมิติให้กับร่างกายเหมือนกับการเติมไขมันหน้าแต่สารที่ฉีดเข้าไปนั้นไม่ใช่เซลล์ไขมันที่มาจากร่างกายของเรา สารที่ฉีดเข้าไปเป็นสารสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับโปรตีนในร่างกายของมนุษย์ที่ชื่อว่า กรดไฮยาลูโรนิก หรือ Hyaluronic acids หรือ HA ที่เรารู้จักกันดี ซึ่งมีความปลอดภัยและดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีเช่นเดียวกัน

              1. เติมไขมันหน้า ฉีดฟิลเลอร์ สามารถฉีดบริเวณใดได้บ้าง

              ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า คุณสมบัติของฟิลเลอร์และไขมันนั้นมีความแตกต่างกัน ด้วยการเป็นสารสังเคราะห์ของฟิลเลอร์จึงมีระดับความแข็งที่แตกต่างกัน การปรับใช้ฟิลเลอร์จึงขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการฉีดสารเติมเต็มที่แตกต่างกันไป ส่วนเซลล์ไขมันมีระดับความแข็งระดับเดียว การใช้เซลล์ไขมันแต่ละระดับก็จะแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมแต่จะมีลักษณะนิ่มกว่าฟิลเลอร์อยู่ดี 

              การฉีดฟิลเลอร์: 
              สามารถใช้ได้ทั่วทั้งใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นเติมเต็มหน้าผาก เติมขมับตอบ เติมแก้มตอบ ใต้ตา หรือร่องน้ำตาลึก ร่องแก้มลึก เสริมจมูก เติมเต็มปาก คางเรียว ลดริ้วรอยและรอยหลุมสิว ซึ่งฟิลเลอร์จะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูมีมิติ ลดเลือนริ้วรอยร่องลึกและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ไม่หมองคล้ำ
               

              การเติมไขมัน:
              มักจะเน้นในบริเวณที่ทำให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น เช่น เติมเต็มหน้าผาก เติมขมับตอบ เติมเต็มไขมันใต้ตา เติมร่องแก้ม เสริมหน้าอก ฉีดไขมันมือเด็ก ฉีดสะโพก ยกเว้นบริเวณจมูกและคางที่เป็นกระดูกแข็งๆเท่านั้น ซึ่งการเติมไขมันจะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอยร่องลึกและทำให้ผิวดูเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น

              2. เติมไขมันหน้า ฉีดฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน วิธีไหนอยู่ได้นานกว่า

              ระยะเวลาหลังฉีดในบริเวณเดียวกัน ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ หรือเติมไขมันหน้าส่วนมากจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด

              การฉีดฟิลเลอร์:
              จะขึ้นอยู่กับระดับความแข็งของฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป จะอยู่ได้ประมาณ 12 เดือนขึ้นไป

              การเติมไขมันหน้า:
              จะอยู่ได้ประมาณ 1-4 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยร่วมกันกับร่างกายของผู้ฉีดเองด้วย นั่นก็หมายความว่า การฉีดเติมไขมันหน้าประมาณ 70% ขึ้นอยู่กับส่วนของแพทย์ (เทคนิคการฉีดและปริมาณที่ใช้) และอีก 30% อยู่ที่การดูแลรักษาตัวเองของผู้ที่ได้รับการฉีด

              3. โอกาสในการแพ้จากการเติมไขมันหน้า และฉีดฟิลเลอร์

              อย่างที่ได้กล่าวไปว่าการเติมไขมันหน้า คือ การนำเอาเซลล์ไขมันที่สะสมอยู่ในส่วนต่างๆของร่างกายมาใช้งาน ดังนั้นโอกาสในการแพ้จึงไม่มีเลยเพราะไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ส่วนการฉีดฟิลเลอร์สามารถพบเจอกับโอกาสในการแพ้ได้ เนื่องจากการได้รับฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มีอาการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นหนอง เป็นก้อนแข็ง เคลื่อนตัวง่าย หรือมีพังผืดเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้การได้รับฟิลเลอร์ของแท้ก็สามารถพบโอกาสในการแพ้ได้เช่นเดียวกัน Delay Hypersensitivity ซึ่งจะเป็นการแพ้ที่เกิดขึ้นในระยะยาว หลังจากได้รับฟิลเลอณืไปแล้วประมาณ 6 เดือน อาจจะมีอาการบวม แดง อักเสบและเป็นก้อน

              การทำงานของฟิลเลอร์
              dermal filler

              การฉีดฟิลเลอร์ เติมไขมัน ราคาเท่าไร วิธีไหนแพงกว่า

              การฉีดฟิลเลอร์และเติมไขมันหน้าราคาแตกต่างกันค่อนข้างมาก เพราะการเติมไขมันหน้าจะใช้เซลล์ไขมันที่มาจากตัวของคนไข้ แต่ก็มีขั้นตอนการทำค่อนข้างหลายขั้นตอน เนื่องจากตัองทำการดูดไขมันจากร่างกายของคนไข้ก่อน จากนั้นจึงนำกลับเข้าไปฉีดเติมเต็มบริเวณที่ต้องการ ดังนั้นราคาค่อนข้างสูงกว่ากว่าการฉีดฟิลเลอร์ ส่วนฟิลเลอร์นั้นสามารถฉีดบริเวณที่ต้องการได้เลย ส่วนราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด และคลีนิกเสริมความงามมักมีโปรโมชั่นออกมาเสมอ ทำให้ราคาฟิลเลอร์ส่วนมากจะเริ่มต้นที่ราคาไม่แพง หลักพันต้นๆก็สามารถเริ่มฉีดฟิลเลอร์ได้แล้วค่ะ

              ฉีดฟิลเลอร์ เติมไขมัน อันไหนสวย เป็นธรรมชาติมากกว่า

              การฉีดฟิลเลอร์กับการเติมไขมันหน้าถามว่าอันไหนดีกว่า ต้องขอตอบว่าขึ้นอยู่กับบริเวณที่เราต้องการฉีดและความต้องการที่เรามี รวมทั้งยังมีเรื่องของงบประมาณของแต่ละท่านที่แตกต่างกัน ด้วยปัญหาและลักษณะของแต่ละคนไม่เหมือนกันดังนั้นการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษาว่า จุดที่ต้องการแก้ปัญหาเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์เติมไขมันมากกว่ากัน 5 ความต้องการของเราอยากจะให้หน้าดูละมุน ดูเป็นธรรมชาติก็จะเหมาะกับการเติมไขมันหน้ามากกว่า ส่วนคนที่ต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาเป๊ะ ใบหน้าดูโดดเด่นและเห็นผลอย่างชัดเจนก็จะแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์แทน

              dermal filler or fat transfer

              เติมไขมันหน้า เหมาะกับใคร

              การเติมไขมันหน้าจะช่วยให้ผิวพรรณดูละมุนละไม อ่อนเยาว์ ดูอิ่มน้ำ ดูเต็มฟู เปล่งปลั่งและมีออร่า จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและลดความเสี่ยงจากการแพ้ฟิลเลอร์ หรือปัญหาฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน ในขณะเดียวกันก็อาจจะต้องมีการเติมไขมันหน้าบ่อยครั้งกว่าการฉีดฟิลเลอร์

              การฉีดฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร

              ส่วนการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ช่วยให้รูปหน้ากระชับ ได้สัดส่วนอย่างชัดเจน จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์อย่างชัดเจนและสมบูรณ์แบบ รวมทั้งการใช้บริเวณจมูกและคาง ซึ่งถือว่ามีราคาค่อนข้างสูงแต่ก็อยู่ได้นานกว่าการเติมไขมันหน้า แต่ก็อาจจะนำมาซึ่งความเสี่ยงในการแพ้ฟิลเลอร์นั่นเองค่ะ

              สรุปเติมไขมันหน้า หรือฉีดฟิลเลอร์ดี

              การเติมไขมันหน้าและการฉีดฟิลเลอร์ มีข้อดีและข้อแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับบริเวณที่เราต้องการจะแก้ไขปัญหา รวมทั้งราคาที่แตกต่างกัน หากไม่มั่นใจว่าการเติมไขมันหน้า หรือการฉีดฟิลเลอร์แบบไหนเหมาะกับการรักษามากกว่า ขอแนะนำให้ทำการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อประเมินการรักษาและผลลัพธ์ที่จะเป็นไปได้ว่าตรงกับความต้องการ และงบประมาณหรือไม่ค่ะ

              ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
              dr ben malika clinic 02

              หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผู้อ่านยังมีความสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม หรืออยู่ในระหว่างตัดสินใจว่าจะเลือกวิธีไหน สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมกับหมอเบญได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายก่อนเข้ารับบริการจริงค่ะ หมอเบญตอบแชตเองค่ะและยินดีให้คำปรึกษากับทุกท่านค่ะ  สามารถแอดไลน์ได้ที่ Line ID: @malikaclinic หรือเข้ามาที่คลินิกเพื่อให้หมอเบญประเมินก่อนได้เลยค่ะ คลิกนิกตั้งอยู่ที่ลาดพร้าว วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67) หมอเบญและทีมงานยินดีต้อนรับค่ะ

              shaving hair

              แวกซ์ขน เลเซอร์ขน เลเซอร์ Yag, Diode แตกต่างกันอย่างไร วิธีกำจัดขนไหนดีที่สุด

              แวกซ์ขน เลเซอร์ขน เลเซอร์ Yag, Diode แตกต่างกันอย่างไร วิธีกำจัดขนไหนดีที่สุด

              สาวๆและหนุ่มๆหลายๆคนคงจะเคยสงสัยว่า “ขน” ที่ขึ้นอยู่ตามร่างกายของเรานั้นมีไว้เพื่ออะไร? ขนที่ขึ้นตามบริเวณต่างๆในร่างกายต่างก็มีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป นอกจากจะเป็นอวัยวะรับความรู้สึกแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียความร้อน ป้องกันแสงแดดและป้องกันอันตรายได้ด้วย แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่า ขนที่ขึ้นบางส่วน ก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆหลายๆคนสักเท่าไหร่ เช่น ขนคิ้ว รักแร้ ขา แขน หนวด รวมไปถึงจุดซ่อนเร้น เป็นต้น จึงเป็นที่มาของวิธีกำจัดขนที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าวิธีกำจัดขนแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร? วิธีกำจัดขนไหนดีที่สุด? ศึกษาได้ในบทความนี้เลย

              หมอเบญนำบทความเปรียบเทียบการกำจัดขนแต่ละประเภทมาให้สาวๆได้อ่านกันแล้วค่ะ
                Add a header to begin generating the table of contents

                วิธีกำจัดขนแต่ละประเภท

                พูดถึงวิธีกำจัดขนที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน แบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ การโกนขน การแวกซ์กำจัดขน และเลเซอร์กำจัดขน ซึ่งการกำจัดขนส่วนใหญ่ทำเพื่อความสวยงาม บางกรณีอาจจะเป็นการรักษาความผิดปกติของขนที่ขึ้นตามร่างกาย เช่น โรครูขุมขนอักเสบ หรือขนคุด โรคมนุษย์หมาป่า หรือขนดก เป็นต้น มาดูกันว่าวิธีกำจัดขนแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง?

                shaving hair

                การกำจัดขนด้วยการโกน

                การกำจัดขนด้วยการโกน เป็นวิธีกำจัดขนแบบชั่วคราวโดยใช้มีดโกน หรือเครื่องโกนขนไฟฟ้า ส่วนมากนิยมกำจัดขนบริเวณใบหน้า การโกนหนวด หรือการตัดผมของผู้ชาย ส่วนผู้หญิงนั้นจะใช้โกนบริเวณรักแร้ ขา แขนและจุดซ่อนเร้นเป็นส่วนใหญ่ เทคนิคในการโกน คือ การทำให้ผิวบริเวณที่ต้องการโกนขน มีความเปียกเล็กน้อยเพื่อให้ขนอ่อนนุ่มลงและโกนได้ง่ายขึ้น บางแห่งที่เป็นบริเวณผิวบอบบางสามารถใช้ครีมโกนขนร่วมด้วยได้และให้โกนตามแนวขนเพื่อป้องกันการระคายเคือง

                ข้อดีของการโกน :

                การโกนขนสามารถทำได้เองง่ายๆที่บ้าน มีความสะดวกสบายและไม่มีความซับซ้อนใดๆเพียงแค่มีอุปกรณ์โกนขนเท่านั้น สามารถโกนได้ทุกบริเวณที่ต้องการโดยทันที

                ข้อเสียของการโกน :

                การโกนขนเป็นการกำจัดขนแบบชั่วคราว ไม่ได้ดึงเส้นขนออกมาทั้งราก จะให้ผลลัพธ์ประมาณ 1-3 วันเท่านั้น ดังนั้นจึงอาจจะต้องโกนบ่อย ซึ่งเป็นบ่อเหตุของการเกิดอาการระคายเคืองผิว ตุ่มนูนแดง อาการขนคุด หรืออาจเป็นเหตุทำให้มีดโกนบาดผิวหนังและติดเชื้อได้ง่าย

                waxing hair

                การแวกซ์กำจัดขน

                การกำจัดขนด้วยการแวกซ์ เป็นวิธีกำจัดขนแบบชั่วคราวอีกเทคนิคหนึ่งแต่เป็นการถอนขนออกมาทั้งเส้น ซึ่งจะใช้แวกซ์อุ่นๆ หรือแวกซ์เย็นในการกำจัดขน นิยมใช้บริเวณใต้วงแขน ขา แขนและจุดซ่อนเร้น ซึ่งจะเป็นการนำแวกซ์กำจัดขนป้ายลงบนผิวหนังบริเวณที่ต้องการกำจัดขน จากนั้นใช้แถบผ้าขนาดต่างๆทับลงไปและรอให้แวกซ์แห้งแล้วจึงดึงแถบผ้าออกอย่างรวดเร็วเพื่อให้เส้นขนหลุดติดมากับแถบผ้านั้น

                ข้อดีของการแวกซ์กำจัดขน :

                การแวกซ์กำจัดขนสามารถทำได้ที่ร้าน หรือซื้อแบบแผ่นสำเร็จรูปมาทำเองได้ที่บ้านได้ง่ายๆ ซึ่งเหมาะสำหรับการกำจัดขนได้ทุกส่วนบนร่างกาย ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ประมาณ 3-6 สัปดาห์ จึงไม่ต้องทำบ่อยและควรปล่อยให้เส้นขนยาวเพิ่มอย่างน้อย 6 มิลลิเมตรเพื่อให้การแวกซ์ครั้งต่อไปง่ายขึ้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การแวกซ์กำจัดขนช่วยให้ผิวเรียบเนียนกว่าและขนที่ขึ้นใหม่นั้นจะบางกว่าการโกนนั่นเอง 

                ข้อเสียของการแวกซ์กำจัดขน :

                การแวกซ์กำจัดขนจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและจะรู้สึกเจ็บปวดกว่าการโกน อาจจะมีรอยแดง หรือตุ่มนูนหลังจากการแวกซ์ได้ นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดในกรณีที่ผิวไหม้ หรือการใช้ยารักษาสิวบางชนิดที่ทำให้ผิวบางลงด้วย

                laser-epilation-hair-removal-therapy (1)

                เลเซอร์กำจัดขน

                วิธีกำจัดขนแบบเลเซอร์นี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ใช้แสงเลเซอร์ที่มีความร้อนยิงเข้าไปที่รูขุมขนเพื่อทำลายและยับยั้งการเติบโตของเส้นขน ด้วยหลักการทำงานง่ายๆ คือ การจับเม็ดสีเมลานินในรากเส้นขนนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันมีเลเซอร์ 3 ประเภทที่เป็นที่นิยม

                ข้อดีของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ :

                การยิงเลเซอร์ขนให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าแต่คุณไม่สามารถทำเองได้ที่บ้าน จะต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นการกำจัดขนแบบถาวรที่กำจัดขนได้ลึกจนถึงราก ลดอัตราการเกิดใหม่และไม่ทำร้ายผิวด้วย

                ข้อเสียของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ :

                การยิงเลเซอร์ขนจะต้องยิงเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 5 ครั้งขึ้นไปเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงและจะต้องทำที่ร้านเท่านั้น ไม่สามารถทำได้เองที่บ้าน แต่ในปัจจุบันการเลเซอร์ขนมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงกว่าสมัยก่อนมาก บางครั้งเริ่มต้นเพียงหลักพันต้นๆเท่านั้น

                ประเภทของเลเซอร์กำจัดขน

                เลเซอร์ IPL

                เป็นคลื่นความถี่ช่วง 650 nm-1200 nm โดยใช้หลักการส่งความร้อนไปจับกับเม็ดสีเมลานินในรากเส้นขนเพื่อทำลายเซลล์รากขนให้อ่อนแอลง หลังจากทำแล้วขนจึงค่อยๆหล่นร่วงไป หากงอกขึ้นมาใหม่ก็จะไม่แข็งแรงและเป็นเส้นบาง จนกระทั่งไม่สามารถงอกขึ้นมาได้อีก เลเซอร์ IPL นี้ ให้ผลลัพธ์ยาวนานประมาณ 18-24 เดือน ซึ่งสามารถไปยิงซ้ำได้เรื่อยๆ

                เลเซอร์ Yag

                เป็นคลื่นความถี่ช่วงประมาณ 1064 nm โดยใช้หลักการเดียวกันกับเลเซอร์ขนอื่นๆ ซึ่งเลเซอร์ yag สามารถกำจัดขนได้ 20-30% ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้ทำประมาณ 5-8 ครั้ง หรือจนกว่าเส้นขนจะถูกกำจัดออกทั้งหมด โดยจะเห็นผลอย่างชัดเจนหลังจากทำครั้งที่ 5 เป็นต้นไป

                เลเซอร์ diode

                เป็นคลื่นความถี่ช่วงประมาณ 880 nm โดยใช้หลักการเดียวกันกับเลเซอร์ขนอื่นๆ เนื่องจากเป็นลำแสงขนาดเล็กจึงสามารถผ่านผิวลงไปได้ลึก กำจัดขนได้ทั้งเส้นใหญ่และเส้นเล็กแต่เส้นขนจะค่อยๆร่วงในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังจากทำ จึงจะต้องมาทำอย่างต่อเนื่องประมาณ 5-6 ครั้งขึ้นไป โดยเว้นระยะห่างทุกๆ 1 เดือน

                diode laser
                เครื่องเลเซอร์ Diode

                เลเซอร์กำจัดขนแบบไหนดีที่สุด

                เลเซอร์กำจัดขนแต่ละแบบก็มีข้อดีแตกต่างกันไป หากพิจารณาตามช่วงความยาวของคลื่น ยิ่งขึ้นยาวมากเท่าไหร่ก็ทำให้กำจัดลึกถึงรากขนได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเลเซอร์ Yag จึงถือว่าเป็นเลเซอร์ที่ลงลึกถึงรากขนได้มากที่สุดถึง 7 มิลลิเมตรเลยทีเดียว นอกจากจะช่วยกำจัดเส้นขนได้หมดจดโดยที่ไม่เกิดรอยไหม้ รอยดำ หรือการระคายเคืองแล้ว ยังสามารถทำได้ทุกบริเวณ รวมถึงจุดซ่อนเร้นด้วย ส่วน diode laser เป็นเลเซอร์เพื่อการกำจัดขนโดยเฉพาะ และไม่ทำปฏิกิริยากับเม็ดสีเมลานีน ทำให้สามารถทำเลเซอร์ได้แม้ในผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เป็นเลเซอร์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวหนังที่สุด

                วิธีกำจัดขน แบบไหนดีที่สุด

                วิธีกำจัดขนแบบไหนดีที่สุดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องโจทย์ความต้องการ ความสะดวกสบาย ค่าใช้จ่าย ผลลัพธ์ที่ได้รับและข้อเสียที่ยอมรับได้ เพราะวิธีกำจัดขนแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการกำจัดขนแบบไหนมากกว่า

                ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
                dr ben malika clinic 02

                หากอ่านมาถึงตรงนี้แต่ยังไม่แน่ใจว่าเลเซอร์กำจัดขนตัวไหนที่เหมาะกับตัวเรา สามารถสอบถามเพิ่มเติมหรือขอคำแนะนำกับหมอเบญได้ที่ Malika Clinic by Dr. Ben เบอร์โทร 095 450 9355 หรือ Line ID: @malikaclinic ส่งข้อความมาถามหมอเบญได้เลยค่ะ หมอเบญตอบแชตเองและยินดีให้คำปรึกษาคนไข้ทุกคนค่ะ

                Woman treatment malika clinic 06

                เจาะลึกเรื่อง ฝ้า สาเหตุ วิธีป้องกันฝ้า วิธีรักษาฝ้า รักษาฝ้า ที่ไหนดี

                เจาะลึกเรื่อง ฝ้า สาเหตุ วิธีป้องกันฝ้า วิธีรักษาฝ้า รักษาฝ้า ที่ไหนดี

                ปัญหาเรื่องฝ้าถือเป็นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะไม่ว่าจะหญิงหรือชาย เมื่อต้องเผชิญกับการรุกล้ำของฝ้าหรือรอยด่างดำตามใบหน้าแล้ว นอกจากจะรักษาให้หายกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ยาก ยังมีต้นทุนในการรักษาที่สูงอีกด้วย ในบทความนี้เราจึงอยากเคลียร์ให้ชัด เจาะประเด็นเรื่องฝ้าให้ลึก เพื่อที่จะได้เตรียมรับมือหรือหาวิธีรักษาฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

                เจาะลึกเรื่องฝ้ากับหมอเบญ รวบรวมทุกคำถามที่คนสงสัยเกี่ยวกับเรื่องฝ้าในบทความมนี้ค่ะ
                  Add a header to begin generating the table of contents

                  ฝ้า คืออะไร

                  ฝ้าคือลักษณะทางกายภาพที่ร่ายกายพยายามแสดงให้เห็นถึงความผิดปกติของผิวหนังชั้นนอกที่สีเปลี่ยนไปในทิศทางที่เข้มขึ้น โดยฝ้าจะมีขนาดและสีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างทางร่ายกาย สาเหตุ และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการรักษาฝ้าหรือรอยด่างดำจะยากหรือง่าย ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ประเภท ขนาด และความเข้มของสีที่เกิดขึ้นอีกด้วย

                  Woman treatment malika clinic 06

                  ฝ้า เกิดจากอะไร สาเหตุของการเกิดฝ้า

                  ด้านล่างนี้ เราได้รวบรวมสาเหตุของการเกิดฝ้าที่เป็นไปได้ทั้งหมดมาไว้ให้คุณแล้ว ศึกษาอย่างละเอียดเพื่อที่จะเข้าใจและพยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดฝ้า

                  1. เผชิญหน้ากับแสงแดดอยู่บ่อยครั้ง
                    ในแสงแดดส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต ประเภท UVA, UVB หรือกลุ่มของแสงที่มองเห็นได้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีส่วนที่จะไปกระตุ้นให้ผิวหนังของคุณมีสีที่เปลี่ยนไปได้

                  2. ฮอร์โมน
                    ปัญหาฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมน ส่วนใหญ่จะพบในเพศหญิงที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือกินยาคุ้มกำเนิดเป็นประจำ
                  1. ใช้สารเคมีหรือเครื่องสำอางเป็นประจำ
                    เพราะเครื่องสำอางมีส่วนประกอบของสารเคมีที่อาจทำให้ชั้นใบหน้าของคุณบางลง ซึ่งเมื่อไปเจอกับแสงแดดก็อาจทำให้รอยฝ้ายเกิดง่ายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเครื่องสำอางยังกระตุ้นการเกิดฝ้าง่ายขึ้นอีกด้วย
                  1. ลักษณะทางพันธุกรรมจากงานวิจัยพบว่า บุคคลที่ประสบปัญหาเรื่องฝ้าและรอยด่างดำของผิวมักมีประวัติของบุคคลในครอบครัวที่พบเจอปัญหาเดียวกัน นอกจากนี้ในกลุ่มประเทศแถบเอเชียมักมีโครงสร้างของผิวที่มีความน่าจะเป็นในเกิดฝ้ามากกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆ อีกด้วย
                  melasma skin malika clinic

                  วิธีรักษาฝ้าแบบธรรมชาติ

                  อยู่เมืองร้อนต้องทำใจกับปัญหาผิวมากมายที่อาจเกิดขึ้นกับสาวๆ ทั้งหลายได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะปัญหาเรื่องฝ้านั้นถือเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นกับสาวๆ บ้านเรามากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ สำหรับวิธีการรักษาฝ้านั้นทำได้มากมายหลายวิธีทั้งวิธีแบบธรรมชาติ ใช้ครีมรักษาฝ้า และรักษาโดยแพทย์ผิวหนังโดยตรง ซึ่งในปัจจุบันคลินิกเสริมความงามบ้านเราแทบจะทุกที่มักมีโปรแกรมดูแลเรื่องฝ้าไว้ให้อยู่แล้ว ซึ่งคุณสามารถเดินเข้าไปปรึกษาได้เลยโดยตรงนั่นเอง แต่ทว่าสาวๆ หลายคนอาจจะไม่อยากเสียเงินหลักหมื่นไปกับการดูแลฝ้าใช่ไหมล่ะ? วันนี้เราได้รวบรวม 3 วิธีทางธรรมชาติในการรักษาฝ้ามาฝาก ได้แก่

                  1. หัวไชเท้า – เนื่องด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงมากในหัวไชเท้าทำให้มีความสามารถลดรอยฝ้าและกระได้อย่างธรรมชาติ เพียงคุณนำหัวไชเท้าสดปลอกเปลือก แล้วคั้นให้เหลือเพียงน้ำเท่านั้น จากนั้นผสมกับน้ำสะอาดในอัตราส่วนน้ำ 3 ส่วน และน้ำหัวไชเท้าอีก 1 ส่วน พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที โดยสามารถใช้สำลีชุบน้ำที่ผสมไว้แล้วเติมลงบนหน้าประมาณ 3-4 รอบ คุณสามารถใช้สูตรนี้ได้ประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์เลยค่ะ
                    นอกจากนี้คุณยังสามารถนำน้ำหัวไชเท้า 2 ช้อนชา ผสมกับน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้ก็สามารถช่วยลดฝ้าได้เช่นเดียวกันค่ะ
                  2. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลหมักธรรมชาติ – ด้วยวิตามินซีที่ค่อนข้างสูงของน้ำหมักทำให้มีสรรพคุณในการผลัดเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี เพียงผสมกับน้ำเปล่าอัตราส่วน 1:1 หรือปริมาณน้ำส้มหมักน้อยกว่านี้ก็ได้หากคุณมีผิวหน้าที่แพ้ง่าย เพื่อลดอาการข้างเคียงที่เกิดจากฤทธิ์ของกรด เช่น รอยแดง เป็นต้น วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยลดอาการฝ้าได้เท่านั้น แต่ยังสามารถลดรอยดำที่เกิดจากสิวได้อีด้วยค่ะ
                  3. ใบบัวบก – ใบบัวบกถูกเรียกว่าเป็นสมุนไพรตลอดกาลในการดูแลเรื่องผิวพรรณ เนื่องจากในใบบัวบกนั้นมีสารไตรเตอร์ปินนอยด์ (Triterpenoids) ที่ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนในผิวหนัง อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย เรียกได้ว่าคุณประโยชน์พร้อมสรรพในการเป็นสมุนไพรดูแลผิวหน้าจริงๆ ค่ะ
                  Dark spots on face melasma

                  รักษาฝ้าที่ไหนดี

                  อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าสถานที่ในการรักษาหรือดูแลฝ้ากระในปัจจุบันนั้นมีมากมาย สถาบันเสริมความงามหรือคลินิกเสริมความงาม เราสามารถเข้าไปเพื่อปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์การในด้านรักษาผิวหน้าโดยเฉพาะ โดยสามารถดูรีวิวของผู้ที่เคยใช้บริการเพื่อประกอบการตัดสินใจ

                  ที่ Malika Clinic by Dr. Ben มีโปรแกรม Anti melasma Program  ซึ่งเป็นการรักษาฝ้า 10 ขั้นตอน รวมไปถึงการทำ LED LIGHT THERAPY โดยการใช้แสงสีเหลือง ที่มีคุณสมบัติลดการสร้างเม็ดสี พร้อมใช้วิตามินในการบำรุงผิว หากผู้อ่านสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับหมอเบญได้ตามรายละเอียดด้านล่างค่ะ

                  ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
                  dr ben malika clinic 02

                  ผู้อ่านที่มีปัญหาเรื่องฝ้า และต้องการคำแนะนำหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับหมอเบญได้ที่ Malika Clinic by Dr. Ben คลินิกความงาม ลาดพร้าว วังหิน หรือแอดไลน์  Line ID: @malikaclinic เพื่อรับคำปรึกษาเพิ่มเติม หมอตอบเองทุกเคสและไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาก่อนเข้ารับบริการจริงค่ะ 

                  treatment acne

                  สิว มีกี่ประเภท สาเหตุของการเกิดสิว รักษาสิว ที่ไหนดี เจาะลึกเรื่องสิว

                  สิว มีกี่ประเภท สาเหตุของการเกิดสิว รักษาสิว ที่ไหนดี เจาะลึกเรื่องสิว

                  หลายๆคนคงจะเคยประสบพบเจอกับปัญหาเรื่องสิวๆที่ทำให้หนักอกหนักใจ เจ้าสิวตัวดีนี่แหละ! ที่เกิดขึ้นได้กับผิวทุกประเภท ดังนั้นไม่ว่าใครๆก็มีโอกาสเป็นสิวกันได้ทั้งนั้น ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งสิวก็จะมีสารพัดประเภทที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน ในบทความนี้หมอเบญจะมาเจาะลึกเรื่องสิว มาดูกันว่าสาเหตุของการเกิดสิว ประเภทของสิว มีกี่ประเภท พร้อมวิธีป้องกันและรักษาสิว ที่ไหนดี วันนี้เราเตรียมคำตอบมาให้คุณแล้ว ศึกษาเพิ่มเติมไปพร้อมๆกันได้เลย

                  เรื่องสิว ใครว่าเป็นปัญหาเล็กๆ วันนี้หมอเบญนำบทความที่หลายคนอย่างรู้เกี่ยวกับเรื่องสิวๆมาให้อ่านกันค่ะ
                    Add a header to begin generating the table of contents

                    เจาะลึกเรื่องสิว ใครๆก็มีสิวได้

                    ต้องยอมรับว่าศัตรูตัวฉกาจของใครหลายๆคนที่ทำให้หนักอกหนักใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว นั่นก็คือ สิว! ซึ่งการมีสิวไม่เพียงแค่ทำให้ใบหน้ามีจุดบกพร่องเท่านั้นแต่การเป็นสิวยังทำให้เกิดความเจ็บปวด บางคนมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นอักเสบอีกด้วย ที่น่าเจ็บใจมากที่สุด นั่นก็คือ ตอนที่สิวหายไปแล้วก็ยังทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดเอาไว้ให้ดูอีก อย่างเช่น รอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็น รอยบุ๋มและรอยนูนบนใบหน้า

                    treatment acne

                    สาเหตุของการเกิดสิว

                    สิว (Acne Vulgaris) โดยปกติแล้วเกิดจากการอุดตันของสารเหนียวที่เกิดจากการรวมตัวกันของน้ำมัน, ขนอ่อน, เซลล์ผิวเก่าที่หลุดลอกและแบคทีเรียในรูขุมขน ที่เราเรียกกันว่า “คอมีโดน” หรือ “Comedones” สิวจึงมักขึ้นในที่ที่มีไขมันเยอะมากๆ อย่างเช่น ใบหน้า หน้าอก หนังศีรษะและแผ่นหลัง โดยมีระยะเวลาก่อตัวประมาณ 2 สัปดาห์ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ สิ่งอุดตัน หรือคอมีโดนจะดันท่อไขมันและรูขุมขน ดันผิวหนังให้นูนขึ้นมาจนเห็นว่า “สิวขึ้น” นั่นเอง

                     การเป็นสิวนั้นพบได้ในคนทุกเพศ ทุกวัยแต่จะพบได้มากในช่วงวัยรุ่น หรือวัยเจริญพันธุ์เพราะมีปริมาณฮอร์โมนที่กระตุ้นการสร้างน้ำมันมากกว่าวัยอื่นๆ รวมทั้งปัจจัยอื่นๆที่สามารถกระตุ้นให้เกิดคอมีโดนได้ ซึ่งแบ่งสาเหตุของการเกิดสิวออกเป็น

                    1. น้ำมัน หรือไขมัน การผลิตน้ำมันของต่อมไขมันในผิวที่มากจนเกินไป ไม่ว่าจะมาจากปัจจัยเรื่องฮอร์โมนแอนโดรเจน สภาพอากาศ พันธุกรรม อาหาร หรือยาบางประเภทก็มีส่วนทำให้ผิวหนังมีน้ำมัน หรือไขมันออกมามาก อย่างที่เราเรียกว่า “หน้ามัน” หรือ “ผิวมัน” นั่นเอง
                    2. ขนอ่อน ในแต่ละรูขุมขนจะมีปริมาณของขนอ่อน 1-80 เส้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการหลุดร่วงตามธรรมชาติ ในกรณีที่มีมากจนเกินไปและไม่มีการหลุดร่วงออกไปตามธรรมชาติก็จะมีผลทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันจนกลายเป็นคอมีโดนได้
                    3. เซลล์ผิวที่หลุดลอก การที่เซลล์ผิวหนังด้านนอกเกิดการผลัดผิวตามธรรมชาติแต่ตกค้างในรูขุมขน หรือการผลัดเซลล์ผิวมากจนผิดปกติที่มีสาเหตุมาจากโรคผิวหนังบางชนิด อาการระคายเคือง การดูแลผิวแบบผิดวิธี หรือการใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับผิว จะส่งผลให้รบกวนการไหลของน้ำมันออกมานอกผิวและทำให้เกิดการอุดตันในบริเวณนั้นๆ

                    แบคทีเรียที่เป็นตัวการก่อให้เกิดสิว (Microbial colonization) ที่มีชื่อว่า Propionibacterium Acnes (P.Acne) หรือพี แอคเน่ ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้จะเจริญเติบโตอยู่บริเวณรูขุมขนและเป็นตัวการทำให้เกิดสิวอุดตัน อักเสบ บวม แดงและเป็นหนอง

                    รีวิวก่อน-หลัง รักษาสิวที่ Malika Clinic
                    Acne treatment review blog 011

                    สิว มีกี่ประเภท?

                    สิวแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
                    1. สิวประเภทที่ไม่อักเสบ (Non-Inflammatory Acne) หรือสิวอุดตัน บ้างก็เรียกว่าสิวผด หรือสิวเสี้ยน แบ่งได้เป็นอีก 2 ประเภท
                          – สิวอุดตันหัวเปิด หรือสิวหัวดํา (Blackheads) เป็นตุ่มสีดำเล็กๆที่พบได้ทุกที่ การที่หัวสิวเป็นสีดำเพราะสารอุดตันทั้งหมดทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ
                          – สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวหัวขาว (Whiteheads) เป็นตุ่มสีขาวใต้ผิวหนังเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบและเครื่องสำอางตกค้างในรูขุมขน

                    2. สิวประเภทที่อักเสบได้ (Inflammatory Acne) หรือสิวอักเสบ จะรู้สึกเจ็บเมื่อกด หรือสัมผัส ส่วนมากมักจะมีอาการบวม แดงร่วมด้วย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
                          – สิวตุ่มแดง (Papules) เป็นตุ่มสีแดงขนาดเล็ก นูนขึ้นมา จะมีอาการเจ็บมากเมื่อสัมผัส
                          – สิวตุ่มหนอง (Pustules) มีลักษณะคล้ายสิวตุ่มแดงแต่จะมีหัวหนองเห็นชัดเจนอยู่กลางตุ่ม
                          – สิวหัวช้าง (Nodules) เป็นสิวอักเสบสีแดง ลักษณะแข็ง ใหญ่ ขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรขึ้นไป
                          – สิวซีตส์ (Cysts) เป็นสิวอักเสบแบบรุนแรงและอันตราย มีลักษณะเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังประกอบไปด้วยเลือดและหนอง บางรายอาจจะมีขนาดใหญ่ บวมแดงและเจ็บปวดมาก ซึ่งคอลลาเจนจะถูกทำลายลงและอาจจะเป็นหลุมสิวได้

                    รีวิวก่อน-หลัง รักษาสิวที่ Malika Clinic
                    Acne treatment review blog 021

                    รักษาสิว ที่ไหนดี

                    การรักษาสิวเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน หากยังไม่มีอาการที่ดีขึ้นก็ควรจะไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการรักษาเพื่อให้แพทย์ได้ทำการประเมินและรักษาด้วยวิธีการที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการทานยาปฏิชีวนะ, ยาปรับระดับฮอร์โมน, ยาทา, การฉีดสิว, การฉายแสง LED, เลเซอร์และการทำทรีทเม้นต่างๆ ก็จะช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังปรับสภาพดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ ซึ่งการรักษา หรือการปรึกษาแพทย์ควรจะเริ่มทำตั้งแต่ระยะเริ่มแรกเพราะจะให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพและป้องกันอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งระยะเวลาในการรักษาประมาณ 4 สัปดาห์ถึง 3 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน

                    ที่ Malika Clinic by Dr. Ben มีคอร์สรักษาสิว Acne Pro ซึ่งเป็นการรักษาสิว 10 ขั้นตอน รวมไปถึงการฉายแสงเพื่อฆ่าเชื้อสิว หากผู้อ่านสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับหมอเบญได้ตามรายละเอียดด้านล่างค่ะ

                    ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
                    dr ben malika clinic 02

                    ผู้อ่านที่มีปัญหาเรื่องสิว และต้องการคำแนะนำหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับหมอเบญได้ที่ Malika Clinic by Dr. Ben คลินิกความงาม ลาดพร้าว วังหิน หรือแอดไลน์  Line ID: @malikaclinic เพื่อรับคำปรึกษาเพิ่มเติม หมอตอบเองทุกเคสและไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาก่อนเข้ารับบริการจริงค่ะ หรือหากสะดวกสามารถเดินทางมาให้หมอเบญประเมินก่อนฉีดจริงได้ที่คลินิก ตั้งอยู่ย่าน ลาดพร้าว วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67)

                    botox wrinkle 01

                    โบท็อกซ์ คือ ช่วยเรื่องอะไร มีกี่ยี่ห้อ ราคาเท่าไร ต้องใช้กี่ยูนิต

                    Botox โบท็อกซ์ คือ ช่วยเรื่องอะไร มีกี่ยี่ห้อ ราคาเท่าไร ต้องใช้กี่ยูนิต

                    ในปัจจุบันมีเทคนิคสำหรับเสริมความงามเยอะแยะมากมาย แต่ที่กำลังมาแรง เป็นที่นิยมและเป็นทางเลือกที่ได้รับการเลือกใช้กันมากที่สุด คือ การฉีดโบท็อกซ์ ในบทความนี้หมอเบญจะพามาทำความรู้จักกับการฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ มียี่ห้ออะไรบ้าง ราคาแตกต่างกันไหมและต้องใช้กี่ยูนิต ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!

                    หมอเบญรวบรวบคำถามที่หลายๆคนอยากรู้เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ให้อ่านกันค่ะ
                      Add a header to begin generating the table of contents

                      การฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร และโบท็อกซ์ คือ อะไร

                      โบท็อกซ์ คือ ชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่มท็อกซินเอ หรือ Botulinum toxin type A ซึ่งเป็นสารสกัดของโปรตีนจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Clostridium botulinum ซึ่งเป็นสารที่ใกล้เคียงกับสารในร่างกายของมนุษย์  ในช่วงเริ่มแรกมักใช้สารโบท็อกซ์ในการรักษาอาการกล้ามเนื้อคอกระตุก กล้ามเนื้อตากระตุก อาการปวดไมเกรนและอาการตาเข ในปัจจุบันได้นำมาใช้ในวงการเสริมความงาม ซึ่งจะออกฤทธิ์กับระบบประสาทโดยตรง มีผลให้มัดกล้ามเนื้อต่างๆมีการคลายตัวและทำงานได้น้อยลงเป็นการชั่วคราว จึงทำให้ริ้วรอยลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัดนั่นเอง

                      ส่วนการฉีดโบท็อกซ์ คือ การฉีดสารโบท็อกซ์ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งเป็นสารธรรมชาติชนิดโปรตีนบริสุทธิ์ สกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งเพื่อให้ตัวยาจับตัวกับปลายเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อเพื่อประโยชน์ในการลดเลือนริ้วรอย ปรับลดขนาดกล้ามเนื้อให้หน้าดูเรียวเล็กและช่วยให้แลดูอ่อนเยาว์ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของวงการเสริมความงามเลยก็ว่าได้

                      รีวิวก่อน-หลัง Botox ลดริ้วรอย
                      botox wrinkle 01

                      โบท็อกซ์ ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

                      การฉีดโบท็อกซ์มีข้อดีในเรื่องของความสวยความงาม ทั้งมีประโยชน์ในด้านการลดเลือนริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก หางตา หรือริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ รวมทั้งการช่วยปรับลดขนาดกล้ามเนื้อให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก ช่วยกระชับกรอบหน้าให้ดูสวยงามสมบูรณ์แบบได้ด้วย

                       ส่วนการใช้สารโบท็อกซ์ทางด้านสุขภาพอย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า ในช่วงแรกเริ่มนิยมใช้ในการรักษาอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ อาการปวดไมเกรนและรักษาอาการตาเหล่ ตาเข รวมทั้งการนำสารโบท็อกซ์มาใช้ในการลดปริมาณเหงื่อ ลดขนาดของกล้ามเนื้อแขน ขาและกล้ามเนื้อน่องได้ด้วย

                      รีวิวก่อน-หลัง Botox ลดกราม
                      before after botox jaw

                      โบท็อกซ์ มีหลักการทำงานอย่างไร ทำไมถึงช่วยเรื่องความสวยความงาม

                      หลังจากที่แพทย์ได้ทำการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในส่วนต่างๆที่ต้องการรักษาแล้ว โบท็อกซ์จะมีหลักการทำงานง่ายๆ ด้วยความที่สารโบท็อกซ์เป็นโปรตีนน้ำใสๆ จะถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

                      1. ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปในเซลล์ประสาท ซึ่งจะเป็นส่วนที่ออกฤทธิ์โดยการเข้าไปจับที่ปลายประสาทเพื่อระงับการหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงลง รวมทั้งทำงานลดลงชั่วคราวด้วย จึงทำให้ผิวหนังไม่เกิดรอยพับและกล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัวลง
                      2. ส่วนที่ถูกดูดซึมไปตามกระแสเลือดจะถูกขับออกไปจากร่างกายโดยไม่ส่งผลอันตรายต่อเซลล์อื่นๆ

                      โบท็อกซ์ มีกี่ยี่ห้อ อะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร?

                      ในปัจจุบันมีผู้ผลิตสารโบท็อกซ์หลากหลายยี่ห้อและจากหลายประเทศ ซึ่งโบท็อกซ์ที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่

                      allergan box
                      Allergan โบทอกจากประเทศอเมริกา

                      1. โบท็อกซ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Allergan เป็นสารโบท็อกซ์ประเทศแรกที่ผลิตขึ้นมาและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีโมเลกุลขนาดเล็ก มีความเข้มข้นสูง มีคุณภาพดี มีความบริสุทธิ์ อ่อนโยนและให้ผลการรักษาที่ดีที่สุดแต่ก็มีราคาค่อนข้างสูงด้วย

                      dysport box
                      Dysport โบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ

                      2. โบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ ได้แก่ Dysport ซึ่งเป็นสารโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีขนาดโมเลกุลเล็กกว่า Allergan ซึ่งสามารถกระจายตัวได้ดีกว่า นิยมใช้ในการลดเหงื่อ ลดต้นแขนและลดน่องปูด โดย Dysport 2.5 ยูนิตจะเทียบเท่ากับ Allergan 1 ยูนิต

                      xeomin-box-all
                      Xeomin โบทอกจากประเทศเยอรมัน

                      3. โบท็อกซ์จากประเทศเยอรมัน ได้แก่ Xeomin เป็นสารโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์ 100% ขนาดโมเลกุลเล็กและสามารถกระจายตัวได้ดี ช่วยแก้ปัญหาการดื้อโบท็อกซ์ นิยมใช้ลดเลือนริ้วรอย กระชับ ปรับรูปหน้าเพราะทำให้หน้าไม่แข็งตึง ดูสวยเป็นธรรมชาติแต่มีราคาสูงเทียบเท่ากับ Allergan

                      nabota box korea
                      Nabota โบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี

                      4. โบท็อกซ์ประเทศเกาหลี ได้แก่ Botulax, Aestox และ Nabota เป็นแบรนด์โบท็อกซ์น้องใหม่ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในประเทศเกาหลี ด้วยความที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Allergan แต่มีราคาที่ถูกกว่ามาก โดยความเข้มข้นและขนาดโมเลกุลที่สามารถอยู่ได้นาน 4-6 เดือนและออกฤทธิ์ไว ทำให้เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากเช่นกัน

                      รีวิวก่อน-หลัง Botox ลดริ้วรอย + ฟิลเลอร์ใต้ตา 1 cc
                      filler botox review 02

                      โบท็อกซ์ ราคา ต่างกัน ประสิทธิภาพต่างกันหรือไม่?

                      โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อแต่ละประเทศมีจุดโดดเด่นและความแตกต่างกันในเรื่องของกรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์ การกระจายตัว ความเข้มข้น คุณสมบัติ ชนิด Protein Complex ขนาดของ Molecule Complex Size และความคงทนในการรักษาขนาดของ Molecule Complex Size ซึ่งส่งผลให้มีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการประเมินแผนการรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า ในแต่ละเคสควรจะใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อไหน ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าและมีการแพร่กระจายเหมาะกับบริเวณที่ทำการรักษามากที่สุด

                      โบท็อกซ์ ใช้กี่ยูนิต

                      การฉีดโบท็อกแนะนำให้ทำการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่า ในแต่ละเคสควรจะใช้โบท็อกกี่ยูนิตเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับบริเวณที่ทำการรักษามากที่สุด ซึ่งการฉีดโบท็อกจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนและมีความปลอดภัย ส่วนมากจึงนิยมใช้ในบริเวณต่างๆของร่างกาย ดังนี้

                      1.
                      โบท็อกซ์หน้าเรียว ลดกราม Lift กรอบหน้า ประมาณ 50-100 ยูนิต
                      2.โบท็อกซ์ปรับลดขนาดของอวัยวะ ประมาณ 10-100 ยูนิตต่อ 1 จุด (แล้วแต่บริเวณที่รักษา) เช่น

                      • ลดโหนกแก้ม
                      • ลดปีกจมูก
                      • ลดต้นแขนและลดน่องปูด
                      • ลดเหงื่อใต้รักแร้
                      • โบท็อกซ์ลดเลือนริ้วรอยเฉพาะจุด ประมาณ 10-25 ยูนิตต่อ 1 จุด เช่น
                      • ริ้วรอยหางตา หรือรอยตีนกาและใต้ตา
                      • ริ้วรอยบนหน้าผาก
                      • รอยย่นระหว่างคิ้ว
                      • รอยย่นบนคอ
                      • รอยย่นบนจมูก
                      botox how many unit

                      การฉีดโบท็อกซ์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

                      การฉีดโบท็อกถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมความงามที่ได้รับประสิทธิภาพคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย โดยมีความปลอดภัยต่อร่างกายและไม่ต้องพักฟื้นจากการผ่าตัดศัลยกรรมแต่อย่างใด ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาบนใบหน้าและริ้วรอยเฉพาะจุดได้เป็นอย่างดี อยู่ได้นานและสามารถเติมซ้ำได้เรื่อยๆตามคำแนะนำของแพทย์ หากใครที่ต้องการฉีดโบท็อกซ์แนะนำให้ทำการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ หรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานการให้บริการที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับโบท็อกซ์ปลอม ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละเคส ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มค่าจากการฉีดโบท็อกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเอง

                      ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
                      dr ben malika clinic 02

                      หากมีความสนใจการฉีดโบท็อกซ์แต่ยังไม่แน่ใจในข้อมูล ต้องการคำปรึกษาหรือคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถเข้ามาที่คลินิก Malika Clinic by Dr. Ben ตั้งอยู่ที่ลาดพร้าว วังหิน เบอร์โทร 095 450 9355 หรือ Line ID: @malikaclinic ส่งข้อความมาถามหมอเบญได้เลยค่ะ หมอเบญตอบแชตเองและยินดีให้คำปรึกษาค่ะ