สิว มีกี่ประเภท สาเหตุของการเกิดสิว รักษาสิว ที่ไหนดี เจาะลึกเรื่องสิว
หลายๆคนคงจะเคยประสบพบเจอกับปัญหาเรื่องสิวๆที่ทำให้หนักอกหนักใจ เจ้าสิวตัวดีนี่แหละ! ที่เกิดขึ้นได้กับผิวทุกประเภท ดังนั้นไม่ว่าใครๆก็มีโอกาสเป็นสิวกันได้ทั้งนั้น ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งสิวก็จะมีสารพัดประเภทที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน ในบทความนี้หมอเบญจะมาเจาะลึกเรื่องสิว มาดูกันว่าสาเหตุของการเกิดสิว ประเภทของสิว มีกี่ประเภท พร้อมวิธีป้องกันและรักษาสิว ที่ไหนดี วันนี้เราเตรียมคำตอบมาให้คุณแล้ว ศึกษาเพิ่มเติมไปพร้อมๆกันได้เลย
เจาะลึกเรื่องสิว ใครๆก็มีสิวได้
ต้องยอมรับว่าศัตรูตัวฉกาจของใครหลายๆคนที่ทำให้หนักอกหนักใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว นั่นก็คือ สิว! ซึ่งการมีสิวไม่เพียงแค่ทำให้ใบหน้ามีจุดบกพร่องเท่านั้นแต่การเป็นสิวยังทำให้เกิดความเจ็บปวด บางคนมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นอักเสบอีกด้วย ที่น่าเจ็บใจมากที่สุด นั่นก็คือ ตอนที่สิวหายไปแล้วก็ยังทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดเอาไว้ให้ดูอีก อย่างเช่น รอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็น รอยบุ๋มและรอยนูนบนใบหน้า
สาเหตุของการเกิดสิว
สิว (Acne Vulgaris) โดยปกติแล้วเกิดจากการอุดตันของสารเหนียวที่เกิดจากการรวมตัวกันของน้ำมัน, ขนอ่อน, เซลล์ผิวเก่าที่หลุดลอกและแบคทีเรียในรูขุมขน ที่เราเรียกกันว่า “คอมีโดน” หรือ “Comedones” สิวจึงมักขึ้นในที่ที่มีไขมันเยอะมากๆ อย่างเช่น ใบหน้า หน้าอก หนังศีรษะและแผ่นหลัง โดยมีระยะเวลาก่อตัวประมาณ 2 สัปดาห์ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ สิ่งอุดตัน หรือคอมีโดนจะดันท่อไขมันและรูขุมขน ดันผิวหนังให้นูนขึ้นมาจนเห็นว่า “สิวขึ้น” นั่นเอง
การเป็นสิวนั้นพบได้ในคนทุกเพศ ทุกวัยแต่จะพบได้มากในช่วงวัยรุ่น หรือวัยเจริญพันธุ์เพราะมีปริมาณฮอร์โมนที่กระตุ้นการสร้างน้ำมันมากกว่าวัยอื่นๆ รวมทั้งปัจจัยอื่นๆที่สามารถกระตุ้นให้เกิดคอมีโดนได้ ซึ่งแบ่งสาเหตุของการเกิดสิวออกเป็น
- น้ำมัน หรือไขมัน การผลิตน้ำมันของต่อมไขมันในผิวที่มากจนเกินไป ไม่ว่าจะมาจากปัจจัยเรื่องฮอร์โมนแอนโดรเจน สภาพอากาศ พันธุกรรม อาหาร หรือยาบางประเภทก็มีส่วนทำให้ผิวหนังมีน้ำมัน หรือไขมันออกมามาก อย่างที่เราเรียกว่า “หน้ามัน” หรือ “ผิวมัน” นั่นเอง
- ขนอ่อน ในแต่ละรูขุมขนจะมีปริมาณของขนอ่อน 1-80 เส้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการหลุดร่วงตามธรรมชาติ ในกรณีที่มีมากจนเกินไปและไม่มีการหลุดร่วงออกไปตามธรรมชาติก็จะมีผลทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันจนกลายเป็นคอมีโดนได้
- เซลล์ผิวที่หลุดลอก การที่เซลล์ผิวหนังด้านนอกเกิดการผลัดผิวตามธรรมชาติแต่ตกค้างในรูขุมขน หรือการผลัดเซลล์ผิวมากจนผิดปกติที่มีสาเหตุมาจากโรคผิวหนังบางชนิด อาการระคายเคือง การดูแลผิวแบบผิดวิธี หรือการใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับผิว จะส่งผลให้รบกวนการไหลของน้ำมันออกมานอกผิวและทำให้เกิดการอุดตันในบริเวณนั้นๆ
แบคทีเรียที่เป็นตัวการก่อให้เกิดสิว (Microbial colonization) ที่มีชื่อว่า Propionibacterium Acnes (P.Acne) หรือพี แอคเน่ ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้จะเจริญเติบโตอยู่บริเวณรูขุมขนและเป็นตัวการทำให้เกิดสิวอุดตัน อักเสบ บวม แดงและเป็นหนอง
สิว มีกี่ประเภท?
สิวแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
1. สิวประเภทที่ไม่อักเสบ (Non-Inflammatory Acne) หรือสิวอุดตัน บ้างก็เรียกว่าสิวผด หรือสิวเสี้ยน แบ่งได้เป็นอีก 2 ประเภท
– สิวอุดตันหัวเปิด หรือสิวหัวดํา (Blackheads) เป็นตุ่มสีดำเล็กๆที่พบได้ทุกที่ การที่หัวสิวเป็นสีดำเพราะสารอุดตันทั้งหมดทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ
– สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวหัวขาว (Whiteheads) เป็นตุ่มสีขาวใต้ผิวหนังเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบและเครื่องสำอางตกค้างในรูขุมขน
2. สิวประเภทที่อักเสบได้ (Inflammatory Acne) หรือสิวอักเสบ จะรู้สึกเจ็บเมื่อกด หรือสัมผัส ส่วนมากมักจะมีอาการบวม แดงร่วมด้วย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
– สิวตุ่มแดง (Papules) เป็นตุ่มสีแดงขนาดเล็ก นูนขึ้นมา จะมีอาการเจ็บมากเมื่อสัมผัส
– สิวตุ่มหนอง (Pustules) มีลักษณะคล้ายสิวตุ่มแดงแต่จะมีหัวหนองเห็นชัดเจนอยู่กลางตุ่ม
– สิวหัวช้าง (Nodules) เป็นสิวอักเสบสีแดง ลักษณะแข็ง ใหญ่ ขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรขึ้นไป
– สิวซีตส์ (Cysts) เป็นสิวอักเสบแบบรุนแรงและอันตราย มีลักษณะเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังประกอบไปด้วยเลือดและหนอง บางรายอาจจะมีขนาดใหญ่ บวมแดงและเจ็บปวดมาก ซึ่งคอลลาเจนจะถูกทำลายลงและอาจจะเป็นหลุมสิวได้
รักษาสิว ที่ไหนดี
การรักษาสิวเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน หากยังไม่มีอาการที่ดีขึ้นก็ควรจะไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการรักษาเพื่อให้แพทย์ได้ทำการประเมินและรักษาด้วยวิธีการที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการทานยาปฏิชีวนะ, ยาปรับระดับฮอร์โมน, ยาทา, การฉีดสิว, การฉายแสง LED, เลเซอร์และการทำทรีทเม้นต่างๆ ก็จะช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังปรับสภาพดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ ซึ่งการรักษา หรือการปรึกษาแพทย์ควรจะเริ่มทำตั้งแต่ระยะเริ่มแรกเพราะจะให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพและป้องกันอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งระยะเวลาในการรักษาประมาณ 4 สัปดาห์ถึง 3 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
ที่ Malika Clinic by Dr. Ben มีคอร์สรักษาสิว Acne Pro ซึ่งเป็นการรักษาสิว 10 ขั้นตอน รวมไปถึงการฉายแสงเพื่อฆ่าเชื้อสิว หากผู้อ่านสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับหมอเบญได้ตามรายละเอียดด้านล่างค่ะ
ผู้อ่านที่มีปัญหาเรื่องสิว และต้องการคำแนะนำหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับหมอเบญได้ที่ Malika Clinic by Dr. Ben คลินิกความงาม ลาดพร้าว วังหิน หรือแอดไลน์ Line ID: @malikaclinic เพื่อรับคำปรึกษาเพิ่มเติม หมอตอบเองทุกเคสและไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาก่อนเข้ารับบริการจริงค่ะ หรือหากสะดวกสามารถเดินทางมาให้หมอเบญประเมินก่อนฉีดจริงได้ที่คลินิก ตั้งอยู่ย่าน ลาดพร้าว – วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67)