Botox โบท็อกซ์ คือ ช่วยเรื่องอะไร มีกี่ยี่ห้อ ราคาเท่าไร ต้องใช้กี่ยูนิต
ในปัจจุบันมีเทคนิคสำหรับเสริมความงามเยอะแยะมากมาย แต่ที่กำลังมาแรง เป็นที่นิยมและเป็นทางเลือกที่ได้รับการเลือกใช้กันมากที่สุด คือ การฉีดโบท็อกซ์ ในบทความนี้หมอเบญจะพามาทำความรู้จักกับการฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ มียี่ห้ออะไรบ้าง ราคาแตกต่างกันไหมและต้องใช้กี่ยูนิต ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
การฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร และโบท็อกซ์ คือ อะไร
โบท็อกซ์ คือ ชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่มท็อกซินเอ หรือ Botulinum toxin type A ซึ่งเป็นสารสกัดของโปรตีนจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Clostridium botulinum ซึ่งเป็นสารที่ใกล้เคียงกับสารในร่างกายของมนุษย์ ในช่วงเริ่มแรกมักใช้สารโบท็อกซ์ในการรักษาอาการกล้ามเนื้อคอกระตุก กล้ามเนื้อตากระตุก อาการปวดไมเกรนและอาการตาเข ในปัจจุบันได้นำมาใช้ในวงการเสริมความงาม ซึ่งจะออกฤทธิ์กับระบบประสาทโดยตรง มีผลให้มัดกล้ามเนื้อต่างๆมีการคลายตัวและทำงานได้น้อยลงเป็นการชั่วคราว จึงทำให้ริ้วรอยลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัดนั่นเอง
ส่วนการฉีดโบท็อกซ์ คือ การฉีดสารโบท็อกซ์ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งเป็นสารธรรมชาติชนิดโปรตีนบริสุทธิ์ สกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งเพื่อให้ตัวยาจับตัวกับปลายเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อเพื่อประโยชน์ในการลดเลือนริ้วรอย ปรับลดขนาดกล้ามเนื้อให้หน้าดูเรียวเล็กและช่วยให้แลดูอ่อนเยาว์ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของวงการเสริมความงามเลยก็ว่าได้
โบท็อกซ์ ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
การฉีดโบท็อกซ์มีข้อดีในเรื่องของความสวยความงาม ทั้งมีประโยชน์ในด้านการลดเลือนริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก หางตา หรือริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ รวมทั้งการช่วยปรับลดขนาดกล้ามเนื้อให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก ช่วยกระชับกรอบหน้าให้ดูสวยงามสมบูรณ์แบบได้ด้วย
ส่วนการใช้สารโบท็อกซ์ทางด้านสุขภาพอย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า ในช่วงแรกเริ่มนิยมใช้ในการรักษาอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ อาการปวดไมเกรนและรักษาอาการตาเหล่ ตาเข รวมทั้งการนำสารโบท็อกซ์มาใช้ในการลดปริมาณเหงื่อ ลดขนาดของกล้ามเนื้อแขน ขาและกล้ามเนื้อน่องได้ด้วย
โบท็อกซ์ มีหลักการทำงานอย่างไร ทำไมถึงช่วยเรื่องความสวยความงาม
หลังจากที่แพทย์ได้ทำการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในส่วนต่างๆที่ต้องการรักษาแล้ว โบท็อกซ์จะมีหลักการทำงานง่ายๆ ด้วยความที่สารโบท็อกซ์เป็นโปรตีนน้ำใสๆ จะถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
- ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปในเซลล์ประสาท ซึ่งจะเป็นส่วนที่ออกฤทธิ์โดยการเข้าไปจับที่ปลายประสาทเพื่อระงับการหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงลง รวมทั้งทำงานลดลงชั่วคราวด้วย จึงทำให้ผิวหนังไม่เกิดรอยพับและกล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัวลง
- ส่วนที่ถูกดูดซึมไปตามกระแสเลือดจะถูกขับออกไปจากร่างกายโดยไม่ส่งผลอันตรายต่อเซลล์อื่นๆ
โบท็อกซ์ มีกี่ยี่ห้อ อะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร?
ในปัจจุบันมีผู้ผลิตสารโบท็อกซ์หลากหลายยี่ห้อและจากหลายประเทศ ซึ่งโบท็อกซ์ที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่
1. โบท็อกซ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Allergan เป็นสารโบท็อกซ์ประเทศแรกที่ผลิตขึ้นมาและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีโมเลกุลขนาดเล็ก มีความเข้มข้นสูง มีคุณภาพดี มีความบริสุทธิ์ อ่อนโยนและให้ผลการรักษาที่ดีที่สุดแต่ก็มีราคาค่อนข้างสูงด้วย
2. โบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ ได้แก่ Dysport ซึ่งเป็นสารโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีขนาดโมเลกุลเล็กกว่า Allergan ซึ่งสามารถกระจายตัวได้ดีกว่า นิยมใช้ในการลดเหงื่อ ลดต้นแขนและลดน่องปูด โดย Dysport 2.5 ยูนิตจะเทียบเท่ากับ Allergan 1 ยูนิต
3. โบท็อกซ์จากประเทศเยอรมัน ได้แก่ Xeomin เป็นสารโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์ 100% ขนาดโมเลกุลเล็กและสามารถกระจายตัวได้ดี ช่วยแก้ปัญหาการดื้อโบท็อกซ์ นิยมใช้ลดเลือนริ้วรอย กระชับ ปรับรูปหน้าเพราะทำให้หน้าไม่แข็งตึง ดูสวยเป็นธรรมชาติแต่มีราคาสูงเทียบเท่ากับ Allergan
4. โบท็อกซ์ประเทศเกาหลี ได้แก่ Botulax, Aestox และ Nabota เป็นแบรนด์โบท็อกซ์น้องใหม่ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในประเทศเกาหลี ด้วยความที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Allergan แต่มีราคาที่ถูกกว่ามาก โดยความเข้มข้นและขนาดโมเลกุลที่สามารถอยู่ได้นาน 4-6 เดือนและออกฤทธิ์ไว ทำให้เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากเช่นกัน
โบท็อกซ์ ราคา ต่างกัน ประสิทธิภาพต่างกันหรือไม่?
โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อแต่ละประเทศมีจุดโดดเด่นและความแตกต่างกันในเรื่องของกรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์ การกระจายตัว ความเข้มข้น คุณสมบัติ ชนิด Protein Complex ขนาดของ Molecule Complex Size และความคงทนในการรักษาขนาดของ Molecule Complex Size ซึ่งส่งผลให้มีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการประเมินแผนการรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า ในแต่ละเคสควรจะใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อไหน ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าและมีการแพร่กระจายเหมาะกับบริเวณที่ทำการรักษามากที่สุด
โบท็อกซ์ ใช้กี่ยูนิต
การฉีดโบท็อกแนะนำให้ทำการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่า ในแต่ละเคสควรจะใช้โบท็อกกี่ยูนิตเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับบริเวณที่ทำการรักษามากที่สุด ซึ่งการฉีดโบท็อกจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนและมีความปลอดภัย ส่วนมากจึงนิยมใช้ในบริเวณต่างๆของร่างกาย ดังนี้
1. โบท็อกซ์หน้าเรียว ลดกราม Lift กรอบหน้า ประมาณ 50-100 ยูนิต
2.โบท็อกซ์ปรับลดขนาดของอวัยวะ ประมาณ 10-100 ยูนิตต่อ 1 จุด (แล้วแต่บริเวณที่รักษา) เช่น
- ลดโหนกแก้ม
- ลดปีกจมูก
- ลดต้นแขนและลดน่องปูด
- ลดเหงื่อใต้รักแร้
- โบท็อกซ์ลดเลือนริ้วรอยเฉพาะจุด ประมาณ 10-25 ยูนิตต่อ 1 จุด เช่น
- ริ้วรอยหางตา หรือรอยตีนกาและใต้ตา
- ริ้วรอยบนหน้าผาก
- รอยย่นระหว่างคิ้ว
- รอยย่นบนคอ
- รอยย่นบนจมูก
การฉีดโบท็อกซ์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การฉีดโบท็อกถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมความงามที่ได้รับประสิทธิภาพคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย โดยมีความปลอดภัยต่อร่างกายและไม่ต้องพักฟื้นจากการผ่าตัดศัลยกรรมแต่อย่างใด ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาบนใบหน้าและริ้วรอยเฉพาะจุดได้เป็นอย่างดี อยู่ได้นานและสามารถเติมซ้ำได้เรื่อยๆตามคำแนะนำของแพทย์ หากใครที่ต้องการฉีดโบท็อกซ์แนะนำให้ทำการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ หรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานการให้บริการที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับโบท็อกซ์ปลอม ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละเคส ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มค่าจากการฉีดโบท็อกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเอง
หากมีความสนใจการฉีดโบท็อกซ์แต่ยังไม่แน่ใจในข้อมูล ต้องการคำปรึกษาหรือคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถเข้ามาที่คลินิก Malika Clinic by Dr. Ben ตั้งอยู่ที่ลาดพร้าว วังหิน เบอร์โทร 095 450 9355 หรือ Line ID: @malikaclinic ส่งข้อความมาถามหมอเบญได้เลยค่ะ หมอเบญตอบแชตเองและยินดีให้คำปรึกษาค่ะ