belotero filler box

รู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero ฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดีไหม มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร?

รู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero ฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดีไหม มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร?

การฉีดฟิลเลอร์ถือว่าเป็นเทคโนโลยีการฉีดสารเติมเต็มผิว ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพื่อช่วยเติมเต็มในชั้นผิวให้กักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นเอาไว้ รวมไปถึงการเติมเส้นใยคอลลาเจน คืนความยืดหยุ่นให้แก่ผิว กระตุ้นให้ผิวดูอ่อนเยาว์ที่สาวๆคู่ควร แต่จริงๆแล้วฟิลเลอร์นั้นมีหลายยี่ห้อและมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ในบทความนี้เราเลยจะมาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดีไหม? มีกี่รุ่น? แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร? ศึกษาได้ในบทความนี้

สารบัญบทความเรื่องฟิลเลอร์ Belotero
    Add a header to begin generating the table of contents

    รู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero

    Filler Belotero คือ ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผลิตจากสารไฮยาลูรอนิคแอซิดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยเทคโนโลยี CPM และ HA ที่เข้มข้น มีการนำเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งผ่านการขึ้นทะเบียนองค์การอาหารและยาในยุโรป ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยอย่างถูกต้อง แถมยังได้รับ 2 รางวัลความงามจากยุโรปเพื่อการันตีความมีคุณภาพอีกด้วย

    บางคนเรียกฟิลเลอร์นี้ว่า “Colorfull Filler” เนื่องจากมีคุณสมบัติที่หลากหลายและแบ่งเป็นรุ่นย่อยๆหลายๆรุ่น ทำให้แพคเกจมีสีสันสดใสสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุด โดย Belotero เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากในการฉีดสารเติมเต็มผิวเพราะมีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึก หลุมสิวและทำให้ผิวเต่งตึง รวมทั้งการแก้ไขข้อบกพร่องของใบหน้าได้ทันใจ

    ฟิลเลอร์ Belotero รุ่นต่างๆ
    belotero filler box

    Belotero filler ดีไหม ?

    ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มผิวประเภท hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่กระบวนการผลิตและคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะถูกผลิตออกมาให้มีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของคุณสมบัติ โมเลกุล เนื้อสัมผัสและความทนทาน ดังนั้นฟิลเลอร์จึงถูกผลิตออกมาหลายรุ่น หลายยี่ห้อและไม่มียี่ห้อไหนที่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ครอบคลุมทุกจุด ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นก็จะเหมาะกับปัญหาที่แตกต่างกันไป belotero filler ดีไหม? ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นและสภาพผิวของแต่ละเคสเป็นอย่างไรมากกว่า การฉีด Belotero filler จะเห็นผลลัพธ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นถ้าหากได้รับการรักษาจากแพทย์ที่มีความรู้ ประสบการณ์ในการประเมินปัญหา สภาพผิว ปริมาณที่ใช้และเทคนิคในการฉีดให้เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุดนั่นเอง

    Belotero filler มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร เหมาะกับการฉีดตรงไหน

    • Belotero Volume กล่องสีม่วง (มีส่วนผสมของยาชา) มีความโดดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติในการคงตัวและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาผิวหน้าในระดับลึก สามารถช่วยแก้ไขปัญหารูปหน้าและฉีดเติมเต็มเสริมส่วนที่ไม่เข้ารูปได้ นิยมใช้ belotero ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย รวมทั้งฉีดใบหน้า คาง ขมับและโหนกแก้มเพื่อปรับรูปหน้าให้สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะในกรณีที่ปัญหานั้นๆเกิดจากการทรุดตัวของกระดูกใบหน้า

    • Belotero Balance กล่องสีส้ม นิยมใช้แก้ไขปัญหาริ้วรอยระดับลึกถึงปานกลาง เพราะจะช่วยปรับริ้วรอยร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม ดูชุ่มชื่น สามารถใช้ฉีดได้หลายบริเวณ เช่น เติมเต็มแก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอยย่นระหว่างคิ้ว รอบริมฝีปากและนิยมใช้ฉีดริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มอีกด้วย 

    • Belotero Soft กล่องสีเหลือง มีความโดดเด่นอยู่ที่มีเนื้อสัมผัสละเอียด โมเลกุลเล็ก จึงนิยมใช้ฉีดในการเก็บรายละเอียดต่างๆได้ดี ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากผิวชั้นนอกและผิวที่ไม่ได้มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกมากนัก เช่น การแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตาและร่องลึกใต้ตา ฉีดลดรอยตีนกา ริ้วรอยบริเวณหางตา หรือรอยย่นที่หน้าผากและปากตกร่องได้ เป็นต้น

    • Belotero Intense กล่องสีชมพู (มีส่วนผสมของยาชา) มีความโดดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติในการคงตัวและมีความยืดหยุ่นสูง สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกมากๆได้ดีแต่ก็ไม่เป็นก้อนๆ ฉีดแล้วทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง หรือริ้วรอยแห่งวัยก็สามารถช่วยได้ เช่น การเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม การเติมแก้มตอบ การเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม เป็นต้น จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า หรือผู้ที่มีอายุ

    Belotero filler ราคาเท่าไร แพงไหม

    filler belotero ราคาเริ่มต้นที่ CC ละ 13,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้งานและสถานบริการที่เลือก ส่วนจะใช้กี่ CC นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป อย่าลืมเลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์ในการรักษาเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น

    Belotero filler อยู่ได้นานไหม เทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น

    Belotero filler โดยปกติแล้วอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ​​belotero ซึ่งเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นๆแล้วถือว่ามีความคงตัวและอยู่ได้นานกว่า เพราะโดยปกติฟิลเลอร์จะอยู่ได้นาน 6-12 เดือนเท่านั้น

    dermal filler or fat transfer

    วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

    • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ช่วง 12 ชั่วโมงแรก ให้งดการแตะ แกะ เกา หรือสัมผัสใบหน้า รวมทั้งการนวดหน้า ขัดหน้า แต่งหน้า หรือทำทรีทเม้นใดๆเพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัว
    • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ภายใน 48 ชั่วโมง ให้งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
    • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ภายใน 14 วัน ให้งดการอยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อนจัด หรือเย็นจัด เช่น การอบซาวน่า สตรีม การแช่ออนเซ็น การเล่นสกี เป็นต้น

    สรุปฟิลเลอร์ Belotero filler

    การฉีด​​belotero filler ถือว่ามีความคุ้มค่าในเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้รับเพราะอยู่ได้นานถึง 18 เดือนแต่การฉีดฟิลเลอร์นั้นจะต้องอาศัยแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ในการประเมินการรักษาให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข รุ่น จำนวนซีซีที่ใช้ฉีด รวมทั้งเทคนิคในการฉีดเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความคุ้มค่ามากที่สุด หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจจะทำให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่ต้องการและอาจจะต้องเสียเงิน เสียเวลาเพิ่มในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการฉีดผิดพลาดได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมเลือกสถานบริการที่มีมาตรฐานในการให้บริการ มีเครื่องไม้เครื่องมือและอุปกรณ์การรักษาที่มีคุณภาพเพื่อความปลอดภัยในการเข้ารับบริการของตัวคุณเอง

    ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
    dr ben malika clinic 02

    หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วผู้อ่านต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ สามารถแอดไลน์ Line ID: @malikaclinic หรือโทรเบอร์ 095-450-9355 และสามารถเข้ามาที่คลินิกที่ Malika Clinic by Dr. Ben ตั้งอยู่ย่าน ลาดพร้าว – วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67) หมอเบญยินดีประเมินเบื้องต้น, ให้คำปรึกษาค่ะ และตอบแชตเองค่ะ

    รู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero ฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดีไหม มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร? Read More »