July 2021

before after botox jaw

โบท็อก กราม Botox ใช้กี่ยูนิต กี่วันเห็นผล ช่วยเรื่องอะไร รวมทุกเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับโบท็อกกราม

Botox กราม โบท็อก ใช้กี่ยูนิต กี่วันเห็นผล ช่วยเรื่องอะไร รวมทุกเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับโบท็อกกราม

สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีความเรียวกระชับ สวยงามได้สัดส่วน แพทย์ส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ทำ Botox กราม ในคนไข้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ แก้มใหญ่ หน้าแบน หรือหน้าบาน เนื่องจากเห็นผลได้ชัดเจนและราคาไม่แพงโดยที่ไม่ต้องทำการผ่าตัดศัลยกรรมใดๆ แต่ไม่ใช่ว่าการฉีดโบท็อกเพื่อลดกรามจะสามารถทำได้ทันทีทันใดเพราะอาจจะเป็นต้นเหตุของความเสี่ยงและอันตรายจากโบท็อกปลอมก็เป็นได้ ในบทความนี้เราจะมาดูข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการ Botox กราม รวบรวมทุกเรื่องที่ต้องรู้มาฝากกัน

หมอเบญตอบทุกคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Botox กราม ในบทความนี้ค่ะ
    Add a header to begin generating the table of contents
    BTA-in-Bangkok woman

    Botox โบท็อก กราม คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?

    การฉีด Botox กราม คือ การฉีดสาร Botox หรือ Botulinum toxin (Type A) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการหยุดการทำงานของสารสื่อประสาทในกล้ามเนื้อ โดยสาร Botox จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาททำให้กล้ามเนื้อเกิดการหยุดทำงานแบบชั่วคราว

     หากนำโบท็อกมาฉีดที่บริเวณกรามจะมีส่วนช่วยให้มัดกล้ามเนื้อคลายตัว อ่อนแรงและหดเล็กลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อใบหน้าดูเรียวขึ้นและเห็นผลชัดเจน ซึ่งสามารถทำการฉีดซ้ำได้เพื่อคงสภาพให้ต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องทำการผ่าตัด หรือพักฟื้นแต่อย่างใด เรียกได้ว่า Botox กรามจะช่วยแก้ไขปัญหากรามใหญ่ ลดกราม โดยการปรับรูปหน้าให้กระชับ ดูเรียวขึ้น หน้าเรียวเล็กได้สัดส่วนและทำให้กรอบหน้าชัดเจนมีมิติมากขึ้น

    ใครเหมาะกับการฉีด Botox กรามบ้าง ?

    ส่วนใหญ่โครงหน้าของคนไทยสามารถใช้การฉีดโบท็อกในการลดกรามได้แบบไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ดังนั้น Botox กราม จึงเป็นทางเลือกในการปรับรูปหน้าที่เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรม ไม่อยากเป็นแผล หรือไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย หลังจากการฉีดโบท็อกกรามก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เห็นผลชัดเจน ซึ่งแต่ละเคสของผู้ที่ต้องการฉีดโบท็อกกราม จะต้องมีการปรึกษาเพื่อขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาที่แตกต่างกันออกไป

    Botox กราม เห็นผลทันทีหรือไม่ กี่วันเห็นผล ?

    Botox กราม กี่วันเห็นผล โดยปกติแล้วจะเห็นผลภายใน 3 สัปดาห์ กรามจะเริ่มนิ่ม ไม่เด้งและยุบได้ประมาณ 10% โดยจะใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลอย่างเต็มที่ประมาณ 2-3 เดือนขึ้นไป

    Botox กราม เป็นหัตถการแรกๆที่แพทย์แนะนำสำหรับผู้ที่อยากปรับรูปหน้าเพราะช่วยลดขนาดกรามให้เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ในบางรายแพทย์ก็ประเมินว่า สามารถทำโบท็อกลิฟกรอบหน้า (Nefertiti lift) เพื่อให้แนวกรามคมขึ้นร่วมด้วยได้

    รีวิวก่อน-หลัง Botox กราม Botulax ข้างละ 25 ยูนิต
    before after botox jaw

    Botox กราม อยู่ได้นานแค่ไหน

    Botox กราม อยู่ได้นาน 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้และคุณภาพของยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ ซึ่งหลังจากฉีดโบท็อกลดกรามไปแล้วก็จะเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด เมื่อฤทธิ์ยาหมดกรามก็จะเริ่มกลับมาแต่ก็สามารถฉีดซ้ำได้เรื่อยๆตามคำแนะนำของแพทย์

    Botox กราม ต้องฉีดกี่ยูนิต ถึงเห็นผล

    Botox กราม กี่ยูนิตนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพใบหน้าของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณเยอะๆ บางรายถ้ากล้ามเนื้อบริเวณกรามไม่เยอะมาก อาจจะไม่ถึง 100 ยูนิตด้วยซ้ำค่ะ โดยเฉลี่ยจะใช้ประมาณ 25-40 ยูนิตต่อข้าง ซึ่งปริมาณการฉีด ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้วิเคราะห์รูปหน้า ทำการวางแผนกำหนดจำนวนยูนิตก่อนการเข้ารับการรักษา หากฉีดในจำนวนที่มากเกินไปอาจจะทำให้หน้าตอบ หรืออาจยิ้มไม่สุดได้

    Botox กราม ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไร?

    Botox ลดกรามมีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น กรรมวิธีและกระบวนการทำตัวยาให้บริสุทธิ์, ชนิดของ protein complex, ขนาดของ molecule complex และ molecule complex size และความคงทนในการเก็บรักษา แนะนำให้แพทย์เป็นผู้แนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการฉีดจะดีที่สุด

    ในปัจจุบันมีสาร Botox Type A ใช้กันอย่างแพร่หลายแต่โบท็อกที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย คือ ยี่ห้อ Allergen จากประเทศสหรัฐอเมริกา ยี่ห้อ Botulax/Aestox/Nabota จากประเทศเกาหลี ยี่ห้อ Dysport จากประเทศอังกฤษและยี่ห้อ Xeomin จากประเทศเยอรมัน

    xeomin-box-all
    Xeomin โบทอกจากประเทศเยอรมัน

    ส่วนมากแพทย์จะแนะนำให้ใช้ยี่ห้อ Allergen เป็นตัวเลือกที่เห็นผลที่ดีที่สุด ซึ่งให้ผลการรักษาที่แม่นยำและมีผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โอกาสดื้อยาต่ำ แต่ว่าก็มีราคาแพง ถ้ามองในมุมของตัวเลือกที่มีความคุ้มค่ากับราคาที่ย่อมเยาว์ลงมา แพทย์จะแนะนำยี่ห้อ Botulax/Aestox/Nabota จากประเทศเกาหลี เพราะมีราคาที่ถูกกว่าและให้ผลที่ค่อนข้างใกล้เคียงยี่ห้อ Allergen แตกต่างกันเล็กเพียงน้อยตรงที่ระยะเวลาการเห็นผลและโอกาสในการดื้อยา

    allergan box
    Allergan โบทอกจากประเทศอเมริกา

    ส่วนราคาขอแนะนำให้ทำการปรึกษากับคลินิก หรือสถานพยาบาลที่ต้องการทำการรักษาโดยตรง หากเป็นคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน ราคาจะไม่แตกต่างกับราคามาตรฐานตามท้องตลาดทั่วไป ได้แก่ (ราคาที่แสดงเป็นราคาโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกด้วยนะคะ)

    • โบท็อกเกาหลี Botulax และ Aestox 100 ยูนิต ราคาประมาณ 5,000-6,000 บาท
    • โบท็อกเกาหลี Nabota 100 ยูนิต ราคาประมาณ 6,000-7,000 บาท
    • โบท็อกอเมริกา Allergan 100 ยูนิต ราคาประมาณ 15,000 บาท
    • โบท็อกอังกฤษ Dysport 300 ยูนิต ราคาประมาณ 13,000 บาท
    • โบท็อกเยอรมัน Xeomin 100 ยูนิต ราคาประมาณ 15,000 บาท

    หากราคาโบท็อกมีราคาถูกจนเกินไป อาจจะเป็นความเสี่ยงต่อการได้รับ Botox ที่เป็นของปลอมก็เป็นได้ ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อนรับการฉีดด้วยนะคะ

    nabota box korea
    NABOTA โบทอกจากประเทศเกาหลี

    Botox กราม อันตรายไหม วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดโบทอกกราม

    Botox กราม ไม่มีอันตรายใดๆต่อร่างกาย สาร Botox แท้ๆจะสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้างใดๆ เรียกได้ว่าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ก่อนฉีดโบท็อกกรามจะต้องมีการเตรียมตัวพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ พร้อมทั้งปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

    วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบทอกกราม

    หลังการฉีด Botox กราม ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติโดยเฉพาะอาหารที่มีแร่ธาตุจำพวกซิงก์ 50 mg. ที่มีส่วนช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น ในขณะเดียวกันก็ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อาหารพวกเตาร้อนและมีรสเผ็ดร้อน เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู อาหารหมักดองและงดการสูบบุหรี่

    ทุกเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับโบท็อกกราม

    Botox กรามเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหากรามที่มีราคาคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพที่ได้รับ ทั้งนี้หากคุณต้องการทำโบท็อกลดกราม ขอแนะนำให้ติดต่อคลินิก หรือสถานพยาบาลที่อยู่ภายใต้การดูแลของทีมงานคุณภาพและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อทำการประเมินแผนการรักษาแต่ละเคส รวมทั้งการได้รับโบท็อกที่มีคุณภาพและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย

    ปรึกษาหมอเบญฟรีก่อนเข้ารับการรักษาจริง
    dr ben malika clinic 02

    หากอ่านมาถึงตรงนี้และมีความสนใจหรือต้องการฉีดโบท็อก กราม สามารถส่งรูปมาให้หมอเบญประเมินเบื้องต้นก่อนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆค่ะ แอดไลน์ที่ Line ID: @malikaclinic หรือสามารถสอบถามและขอคำแนะนำได้ที่เบอร์ 095-450-9355 หรือที่ Malika Clinic by Dr. Ben ตั้งอยู่ย่าน ลาดพร้าว – วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67) หมอเบญยินดีประเมินเบื้องต้นและให้คำปรึกษาค่ะ

    Khun Gap Review under eyes filler

    ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ฉีดกี่ cc แก้ปัญหาใต้ตาให้ถูกจุด

    ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดกี่ cc แก้ปัญหาใต้ตาให้ถูกจุด

    ถึงแม้ว่าความจริงฟิลเลอร์จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์แต่ก็ปฏิเสธความจริงไปไม่ได้ว่า ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่จัดจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาด นอกจากจะมีคุณภาพและราคาที่แตกต่างกันแล้ว ฟิลเลอร์ ยี่ห้อต่างๆก็ยังมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปด้วย จึงเป็นต้นเหตุของคำถามที่สาวๆต้องการคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ ยี่ห้อต่างๆแตกต่างกันอย่างไร? ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี? ฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดกี่ cc? หรือฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่? ฯลฯ ในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้แก่สาวๆทุกคน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!

    หมอเบญรวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาตอบในบทความนี้แล้วค่ะ
      Add a header to begin generating the table of contents
      Filler ใต้ตา รีวิว หมอเบญ 01

      วิธีเลือกฟิลเลอร์ ยี่ห้อต่างๆ ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี?

      สำหรับวิธีการเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาต่างๆที่เป็นที่นิยม อาจจะพิจารณาได้จากหลายๆปัจจัย ได้แก่

      1. ควรเลือกฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ อ.ย. ของประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าฟิลเลอร์นั้นจะเป็นฟิลเลอร์ของแท้และฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูงกว่ายี่ห้ออื่นๆ
      2. ควรเลือกฟิลเลอร์ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและมีประสบการณ์ในการรักษาแนะนำ ร่วมกับการประเมินสภาพผิวหน้าและบริเวณที่ต้องการฉีดของแต่ละเคส
      3. ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีราคาเป็นมาตรฐาน เทียบเท่ากับราคาทั่วไปในท้องตลาด (ไม่รวมค่าบริการจากสถานพยาบาล) แนะนำให้หลีกเลี่ยงฟิลเลอร์ราคาถูกเพราะอาจจะเป็นฟิลเลอร์ของปลอมและไม่ปลอดภัยต่อร่างกาย

      เปรียบเทียบยี่ห้อฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี?

      1. ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Restylane

      เป็นฟิลเลอร์สารเติมเต็มผิวประเภท HA ที่มีการผลิตยาวนานมากที่สุดในโลก จากบริษัท Galderma ประเทศสวีเดน โดยยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

      เทคโนโลยีการผลิต เป็นเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะของฟิลเลอร์ Restylane ได้แก่ NASHA techology และ OBT technology ซึ่งคุณสมบัติพิเศษที่โดดเด่น คือ เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลเล็ก มีความคงตัวสูง สามารถแทรกซึมลึกเข้าไปสู่ชั้นใต้ผิวหนังได้อย่างง่ายดายในการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกให้แลดูตื้นขึ้น รวมถึงการเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อ มีความปลอดภัย ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายและเหมาะสมกับปัญหาผิวหน้าส่วนต่างๆของใบหน้าของคนไข้ รุ่นที่เป็นที่นิยม ได้แก่

      • Restylane Lyft เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา สามารถฉีดใต้ตา ฉีดจมูก หรือทำฟิลเลอร์กระชับรูขุมขนได้ เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษที่มีความคงตัวสูง ไม่ฟู คงรูปได้ดี ย่อยสลายได้เองและฉีดเติมใหม่ได้เรื่อยๆ อยู่ได้นานถึงประมาณ 12 เดือน

      • Restylane Vital Light อีกหนึ่งฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา นิยมใช้ในบริเวณผิวที่มีพื้นที่ใหญ่ๆเพื่อแก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็กๆน้อยๆ ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่มีอนุภาคเล็กและมีความนิ่ม เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณใกล้ๆดวงตาเพื่อแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตา รวมทั้งเติมฟิลเลอร์ริมฝีปาก ซึ่งสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
      • Restylane Classic ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลางจนถึงระดับมากที่สุด เพราะคุณสมบัติพิเศษที่มีเจลอนุภาคใหญ่กว่ารุ่นอื่นๆ จึงเหมาะกับการฉีดริ้วรอยร่องตื้น หรือไม่ลึกมาก เช่น บริเวณร่องแก้ม บริเวณหน้าผากรอยขมวดคิ้ว เป็นต้น โดยปกติแล้วสามารถอยู่ได้คงทนถึง 12 เดือน

      2. ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Juvederm

      เป็นฟิลเลอร์ที่ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท Allergan จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับผลิตภัณฑ์ Botox Allergan และได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกในการนำมาใช้ปรับรูปหน้า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานระดับโลก ผ่านทั้งการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย
      เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ เทคโนโลยี Hylacross และ Vycross Technology ซึ่งมีหลายรุ่นที่ผลิตออกมา แต่ละรุ่นจะมีเนื้อฟิลเลอร์และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน จึงสามารถเลือกรุ่นที่ต้องการเพื่อนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาบริเวณส่วนต่างๆบนใบหน้าได้

      • Juvederm Volift ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา มีลักษณะเนื้อนิ่ม เนียนละเอียด เหมาะสำหรับคนผิวบาง ส่วนมากนิยมใช้เก็บรายละเอียดและใช้ฉีดลดเลือนริ้วรอยที่ไม่ลึกมาก เช่น บริเวณใต้ตา ร่องแก้มและร่องมุมปาก ซึ่งให้ผลลัพธ์คงทนประมาณ 12 เดือน
      • Juvederm Voluma ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา มีลักษณะเนื้อแข็ง ฟูปานกลาง เนื่องจากมีโมเลกุลขนาดใหญ่จึงมีความยืดหยุ่นสูง นิยมใช้ในการแก้ไขปัญหาใต้ตา ร่องแก้ม เติมคางและขมับ หากเป็นบริเวณอื่นๆจะต้องอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
        Juvederm Voluma box malika clinic
      • Juvederm Ultra Plus เป็นฟิลเลอร์อีกรุ่นที่มีส่วนผสมของยาชา มีลักษณะเนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกจากความเสื่อมสภาพตามวัย ช่วยฟื้นฟูให้ผิวอิ่ม เนียนนุ่มชุ่มชื่นและอยู่ได้นานถึงประมาณ 12 เดือน
        juvederm-ultra-plus box

      3. ฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Neuramis

      เป็นฟิลเลอร์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท Medyglobal จากประเทศเกาหลี ซึ่งบริษัทเดียวกับผลิตภัณฑ์ Botox Neuronox ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีราคาย่อมเยาว์ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของประเทศอเมริกาและ EDQM กรมควบคุมคุณภาพของยุโรป

      เทคโนโลยีการผลิตแบบ SHAPE Technology ช่วยสร้างการ Cross-linking และทำให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ การเติมเต็มชั้นในผิวบริเวณส่วนต่างๆของใบหน้าได้ทุกจุด ไม่จับตัวเป็นก้อนและเห็นผลภายในครั้งแรกที่ฉีดโดยไม่ก่อให้เกิดอาการปวด บวม หรือระคายเคือง

      • Neuramis Deep ฟิลเลอร์แบบไม่ผสมยาชา ซึ่งเป็นรุ่นเดียวที่ผ่านเกณฑ์ขององค์การอาหารและยาของประเทศไทย ทำให้มีข้อจำกัดในการใช้แต่ก็เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องแก้ม ขมับและคาง ไม่นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตาเพราะอาจจะจับตัวเป็นก้อนได้ ซึ่ง Neuramis deep จะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
        Neuramis deep box malika clinic

      ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่?

      ขอแนะนำให้สอบถามคลินิก หรือสถานพยาบาลที่คุณเลือกใช้บริการเพราะอาจจะมีราคาที่แตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละที่ด้วยค่ะ

      ฟิลเลอร์ใต้ตาฉีดกี่ CC?

      เนื่องจากแต่ละคนจะมีปัญหาและโครงสร้างของใบหน้าไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอที่มีประสบการณ์ในการรักษา นอกจากนี้การเลือกคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมงานมืออาชีพจะช่วยแนะนำการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของแท้ มีความเหมาะกับบริเวณที่ต้องการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งการได้ฉีดฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพดีอีกด้วย โดยในบางคลินิกสามารถส่งรูปถ่ายไปให้คุณหมอประเมินก่อนเข้าพบจริง เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกด้วยค่ะ

      รีวิวก่อนทำ-หลังทำ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
      ดูรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตาฉบับวิดิโอ

      หากผู้อ่านท่านใดที่ต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถส่งรูปมาให้หมอเบญประเมินเบื้องต้นก่อนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆค่ะ โดยสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 095-450-9355, Line ID: @malikaclinic หรือที่ Malika Clinic by Dr. Ben ตั้งอยู่ย่าน ลาดพร้าว – วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67) หมอเบญยินดีให้คำปรึกษาค่ะ

      filler cover review ads

      ฟิลเลอร์ Neuramis Deep นิวรามิส คือ ฉีดตรงไหนได้บ้าง ดีไหม เปรียบเทียบฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น

      ฟิลเลอร์ Neuramis Deep นิวรามิส คือ ฉีดตรงไหนได้บ้าง ดีไหม เปรียบเทียบฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น

      ฟิลเลอร์ ไม่เพียงแค่ช่วยปรับสภาพผิวให้เต่งตึงและดูอ่อนเยาว์แต่ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึก พร้อมทั้งกระชับรูปหน้าโดยที่ไม่ต้องทำศัลยกรรมใดๆ ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ Neuramis Deep ที่มาแรงที่สุดในขณะนี้กัน

      หมอเบญรวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Neuramis มาตอบในบทความนี้แล้วค่ะ
        Add a header to begin generating the table of contents
        Neuramis boxes 02

        ฟิลเลอร์ Neuramis Deep นิวรามิส คืออะไร? ทำไมถึงได้รับความนิยม

        ฟิลเลอร์นิวรามิส หรือ Neuramis Deep คือ หนึ่งในรุ่นของฟิลเลอร์ Neuramis ฟิลเลอร์ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิคน้องใหม่ในวงการเสริมความงามที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของบริษัท Medyglobal ที่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี ซึ่งมีประสิทธิภาพและราคาย่อมเยา โดยเฉพาะคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ การเติมเต็มชั้นผิวในบริเวณส่วนต่างๆของใบหน้าได้ทุกจุด ไม่เคลื่อนตัว ไม่จับตัวเป็นก้อนและเห็นผลได้ชัดเจนหลังจากการฉีดครั้งแรกโดยไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง อาการบวม หรือเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้ยังได้การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของประเทศอเมริกาและ EDQM กรมควบคุมคุณภาพของยุโรปอีกด้วย

        ฟิลเลอร์ Neuramis นิวรามิส มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร?

        ฟิลเลอร์ Neuramis นิวรามิส มีทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่

        1. Neuramis Light
        2. Neuramis Lidocaine
        3. Neuramis Deep
        4. Neuramis Deep Lidocaine
        5. Neuramis Volume Lidocaine
        Neuramis deep box malika clinic

        โดยรุ่น Neuramis Deep แบบไม่ผสมยาชาเป็นรุ่นเดียวที่ผ่านเกณฑ์ขององค์การอาหารและยาของประเทศไทย หากมองในมุมของเรื่องคุณภาพ รุ่น Neuramis Deep เป็นรุ่นที่ถือว่ามีประสิทธิภาพดีที่สุดในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด ด้วย SHAPE Technology ที่ใช้จะช่วยสร้างการ Cross-linking เส้นใยต่างๆบนใบหน้าทำให้อยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน เรียกได้ว่าเป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและราคาถูกกว่ารุ่นอื่นๆตามท้องตลาด

        ฟิลเลอร์ Neuramis นิวรามิส อยู่ได้นานแค่ไหน?

        Filler Neuramis จะสามารถคงตัวอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนที่แตกต่างกัน คุณภาพของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้และการดูแลตนเองของผู้ฉีดฟิลเลอร์ หากมีความต้องการให้ใบหน้าคงความอ่อนเยาว์ ผิวเต่งตึง เนียนนุ่มชุ่มชื่นอย่างต่อเนื่องอาจจะต้องมีการกลับไปฉีดซ้ำเมื่อฟิลเลอร์สลายตัว

        ฟิลเลอร์ Neuramis นิวรามิส แตกต่างกับยี่ห้ออื่นอย่างไร?

        หากเปรียบเทียบฟิลเลอร์ Neuramis มีคุณภาพไม่แตกต่างกันกับยี่ห้ออื่นๆตามท้องตลาด แต่ที่อาจจะต่างกันเล็กน้อยคือ ระยะเวลาที่คงอยู่จะสั้นกว่าเล็กน้อยโดยจะอยู่ได้ราวๆ 6-12 เดือน และราคาที่ย่อมเยาว์ เข้าถึงง่ายมากกว่านั่นเอง

        ฟิลเลอร์ Neuramis นิวรามิส เหมาะกับการฉีดบริเวณไหน?

        อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าฟิลเลอร์ Neuramis มีรุ่น Neuramis Deep แบบไม่ผสมยาชานั้นเป็นรุ่นเดียวที่ผ่านอ.ย.ของประเทศไทยทำให้มีข้อจำกัดในการใช้ในบริเวณต่างๆบนใบหน้า ดังนั้น Neuramis Deep เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็มใบหน้าในชั้นลึก ไม่ว่าจะเป็นเติมขมับ เสริมคาง เติมร่องแก้ม หรือร่องใต้ตา ปรับแก้มตอบให้อิ่มฟู เติมริมฝีปากให้อวบอิ่ม แก้ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย หรือดำคล้ำ เสริมจมูกให้เป็นรูปทรง เป็นต้น ด้วยความโดดเด่นของเนื้อเจลที่มีประสิทธิภาพในการคงตัวสูงจะช่วยในการเติมเต็มได้เป็นอย่างดีแต่ไม่เหมาะกับการฉีดบริเวณผิวตื้นๆเพราะอาจทำให้จับตัวเป็นก้อนได้

        รีวิวฉีดฟิลเลอร์คางนิวรามิส 1 CC
        Filler คาง review malika clinic

        Neuramis นิวรามิส แพงไหม ราคาประมาณเท่าไร?

        ฟิลเลอร์ Neuramis เป็นฟิลเลอร์คุณภาพที่นำเข้าจากประเทศเกาหลีแต่มีราคาย่อมเยาว์ถูกกว่าฟิลเลอร์ประเภทอื่นๆ Neuramis Deep ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ CC ละ 3,000-5,000 บาท (ไม่รวมค่ารักษาของแต่ละสถานพยาบาล) หากราคาของฟิลเลอร์ถูกมากจนเกินไป อาจเสี่ยงต่อการได้รับฟิลเลอร์ Neuramis ที่เป็นของปลอม หรือผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ ผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์จะต้องมีการพิจารณาให้ดี หากไม่มั่นใจให้ทำการปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อความปลอดภัยและผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

        วิธีตรวจสอบ ฟิลเลอร์ Neuramis นิวรามิส แท้หรือปลอมเบื้องต้น?

        1. ฟิลเลอร์ Neuramis นิวรามิสของแท้จะต้องไม่มีรอยแกะ หรือถูกเปิดใช้มาก่อน โดยกล่องจะเป็นสีดำสนิท ตัวหนังสือสีขาว สกรีนชัด ภาพไม่แตก บริเวณตัวกล่องจะต้องมีข้อความภาษาไทยที่ระบุรุ่นการผลิตและวันหมดอายุไว้อย่างชัดเจน
        2. บริเวณข้างกล่องจะมีฉลาก “Scratch Here” บาร์โค้ดและ QR Code เพื่อทำการตรวจสอบมาตรฐานโดยตรงจากผู้ผลิต
        3. รุ่นที่นำเข้ามาใช้ในประเทศไทยมีเพียงแค่รุ่น Neuramis Deep เท่านั้นและราคาจะต้องไม่ถูกกว่ามาตรฐานมากจนเกินไป
        Neuramis box checking malika clinic

        การฉีดฟิลเลอร์ Neuramis เหมาะกับการแก้ปัญหาของผู้ที่ประสบปัญหาผิวหน้าต่างๆ ซึ่งจะสามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังจากการฉีดครั้งแรกโดยที่ไม่ต้องทำการพักฟื้นแต่อย่างใด แต่การฉีดฟิลเลอร์จำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา ร่วมกับการเลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานและใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ พร้อมกันนี้ผู้ใช้บริการควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อผลประโยชน์ของตัวคุณเอง

        หากผู้อ่านอ่านมาถึงตรงนี้และมีความสนใจสอบถามหรืออยากรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์นิวรามิส สามารถสอบถามกับหมอเบญได้โดยตรงที่ Malika Clinic by Dr. Ben คลินิกตั้งอยู่ย่านลาดพร้าว – วังหินเบอร์โทร 095 450 9355 หรือ Line ID: @malikaclinic หมอเบญให้คำแนะนำฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆค่ะ หรือสามารถสอบถามโปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ได้กับทางคลินิกโดยตรงเลยค่ะ

        malika cover copy

        ฟิลเลอร์คาง ทางแก้คางสั้น อยู่ได้นานแค่ไหนราคาเท่าไร เปรียบเทียบผ่าตัดเสริมคาง

        ฉีดฟิลเลอร์คาง ทางแก้คางสั้น อยู่ได้นานแค่ไหนราคาเท่าไร เปรียบเทียบผ่าตัดเสริมคาง

        การฉีดฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็มผิวประเภท Hyaluronic Acid (ไฮยาลูโรนิคแอซิด) หรือเรียกย่อๆว่า “HA” เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องและปรับโครงสร้างบนใบหน้าให้มีรูปร่างสมส่วนและดูเข้ารูปมากยิ่งขึ้น ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์คาง ราคาเท่าไหร่ เหมาะกับใคร อยู่ได้นานแค่ไหน พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย เจาะลึกวิธีเตรียมตัวก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์กัน

        สารบัญบทความ คำถามยอดฮิตของการฉีดฟิลเลอร์คาง
          Add a header to begin generating the table of contents
          filler chin dr ben 01
          filler chin dr ben 02

          ทำความรู้จักกับฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์คางคืออะไร?

          ฟิลเลอร์คาง คือ เทคโนโลยีของการฉีดสารเติมเต็มให้กับผิวบริเวณคาง ซึ่งมีการผลิตสาร HA หรือไฮยาลูโรนิคแอซิดเลียนแบบตามสารที่มีในธรรมชาติของร่างกายมนุษย์เพื่อทำการเติมเต็มในชั้นผิว เสริมและแก้ไขโครงสร้างใต้ผิวหนัง รวมทั้งการเติมเส้นใยคอลลาเจนเพื่อทำหน้าที่ให้ความแข็งแรงและคืนความยืดหยุ่นให้แก่ผิวที่ร่วงโรย การฉีดฟิลเลอร์คางจึงเป็นทางเลือกในการปรับโครงสร้างและรูปร่างของใบหน้าให้ดูเข้ารูปและมีความสมส่วนมากยิ่งขึ้น ใบหน้าจะเรียวสวยเป็นรูปวีเชฟ อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางเบี้ยว หรือคางไม่เท่ากันโดยที่ไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัดศัลยกรรมแต่อย่างใด

          ฟิลเลอร์คางเหมาะกับใครและช่วยแก้ปัญหาใด?

          การฉีดฟิลเลอร์คางนิยมฉีดเพื่อการปรับรูปใบหน้า เสริมโหงวเฮ้งและแก้ไขปัญหาคางไม่สวย หรือไม่สมส่วน ได้แก่

          1. ช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางเบี้ยว คางบุ๋ม หรือคางไม่เท่ากัน
          2. ช่วยเสริมคางเพื่อปรับโหงวเฮ้ง ใบหน้าได้รูปและได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
          3. ช่วยเสริมคางให้ยาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

          ฟิลเลอร์คางเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการทำการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคาง ผู้ที่ไม่ต้องการให้มีบาดแผล การบาดเจ็บ หรือไม่มีเวลาพักฟื้น ซึ่งผลการรักษาเทียบเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรม นอกจากว่าผู้ป่วยจะมีปัญหาคางสั้นมากๆ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คางไม่ได้ทำให้คางยาวมากเท่ากับการผ่าตัดและอาจทำให้คางไม่สวย หรือมีความผิดรูปได้ไมได้รับการฉีดจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากพอ ดังนั้นแต่ละเคสจะขึ้นอยู่กับการประเมินและวิจารณญาณของแพทย์ผู้รักษา

          ก่อน-หลัง ฉีดฟิลเลอร์คาง 1 CC
          Before After

          ฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้นานแค่ไหน?

          การฉีดฟิลเลอร์คางจะต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่มีความคงตัวสูง ซึ่งจะอยู่ได้ประมาณ 12 ถึง 18 เดือนตามอายุและคุณภาพของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมทั้งการดูแลร่างกายของแต่ละคนด้วย โดยจะสลายหมดประมาณ 1-2 ปีและไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ผู้ป่วยสามารถทำการฉีดฟิลเลอร์คางเพิ่มได้เรื่อยๆทำให้กลายเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน

          ฟิลเลอร์คาง ราคาเท่าไร? และควรฉีดกี่ cc?

          ฟิลเลอร์คาง ราคาจะแตกต่างไปตามยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ซึ่งส่วนมากแพทย์จะแนะนำ 2 ยี่ห้อยอดนิยม ดังนี้

          1. Neuramis จากประเทศเกาหลี ซึ่งราคา 1 cc จะอยู่ที่ 7,000 บาท (โดยประมาณ)
          2. Restylane Perlane Lyft จากประเทศสวีเดน ซึ่งราคา 1 cc จะอยู่ที่ 11,000 บาท (โดยประมาณ)
          3. Juvederm Voluma จากประเทศอเมริกาซึ่งราคา 1 cc จะอยู่ที่ 13,000 บาท (โดยประมาณ)

           การฉีดฟิลเลอร์คางควรฉีดกี่ cc นั้นขึ้นอยู่กับปัญหาของใบหน้าที่ต้องการแก้ไข สำหรับคนที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางเบี้ยว คางบุ๋ม หรือคางไม่เท่ากัน สามารถปรับและแก้ไขรูปคางให้ยาวขึ้นได้ โดยใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 cc ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนภายใน 2 อาทิตย์ สำหรับคนที่ต้องการเติมคางให้ยาวมากเกินกว่า 1 เซนติเมตรจะไม่สามารถใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์คางได้เพราะจะทำให้คางไม่สวย หรือมีความผิดรูปไปได้

          ก่อน-หลัง ฉีดฟิลเลอร์คาง 1 CC
          Before After

          ฉีดฟิลเลอร์คาง หรือผ่าตัดเสริมคางดี?

          การฉีดฟิลเลอร์คางจะต้องเป็นการฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและฉีดด้วยฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและเป็นของแท้จึงจะไม่เกิดอันตรายใดๆต่อร่างกายและยังสามารถสลายตัวได้หมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คางสามารถเติมได้บ่อยๆ หากอยากเพิ่มความยาวของคาง ไม่ชอบทรง หรืออยากแก้ไขก็สามารถทำได้ โดยให้ผลลัพธ์ที่เทียบเท่ากับการผ่าตัดเสริมคางแต่ไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บ หรือต้องพักฟื้นเป็นเวลานานๆ ส่วนมากอาจจะเกิดอาการบวมเล็กน้อยและจะหายบวมเองภายใน 3-7 วัน

          เปรียบเทียบกับผ่าตัดเสริมคาง ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง?

          ข้อดี
          การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัวและไม่ต้องพักฟื้น หลังจากฉีดจะเห็นผลทันที คางสวยขึ้น ใบหน้าได้รูปและเป็นวีเชฟมากขึ้น เรียกว่าการทำหน้าสวยแบบเร่งด่วน ซึ่งรูปทรงที่ได้จะมีความเป็นธรรมชาติมากๆ ยิ่งใช้ฟิลเลอร์ของแท้และมีคุณภาพด้วยแล้วล่ะก็รับรองว่าประทับใจอย่างแน่นอน หากรู้สึกว่าไม่พึงพอใจกับรูปหน้า ไม่ว่าจะออกมาคางสั้น หรือคางยาวเกินไปก็สามารถเพิ่มเติมและสลายบางส่วนออกได้โดยทันที

          ข้อเสีย
          การฉีดฟิลเลอร์คางแต่ละครั้งจะอยู่ได้แค่ 1-2 ปี ซึ่งจะต้องมีการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีเทคนิคที่ถูกต้องเท่านั้น หากฉีดไม่ถูกวิธีอาจจะทำให้เนื้อคางผิดรูปได้

          ก่อน-หลัง ฉีดฟิลเลอร์คาง 1 CC
          Filler chin review on blog post 01

          เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

          1. ให้ศึกษาข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด รวมทั้งการเลือกคลินิกและเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษา
          2. งดยาและวิตามินบางชนิด เช่น ยาผลัดเซลล์ผิว แอสไพริน NSAIDs วิตามินต่างๆ
          3. งดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
          4. แจ้งแพทย์ที่ทำการรักษาหากมีโรคประจำตัว หรือยาที่ต้องรับประทานประจำ

          วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

          1. หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา กดจุด หรือนวดในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ หากมีอาการบวมแดงจะหายเป็นปกติภายใน 3-7 วันแต่หากมีอาการบวมมากขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ที่ทำการรักษาโดยเร็วที่สุด
          2. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การทำเลเซอร์ ซาวน่า การตากแดด เป็นต้น
          3. งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารหมักดองและอาหารประเภทเตาร้อน เช่น ชาบู หมูกระทะ เป็นต้น
          4. ห้ามนอนคว่ำ หรือเอามือเท้าคาง ให้หลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณคางเพราะทำให้คางเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
          how to recover after hifu

          การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องการผ่าตัด เห็นผลรวดเร็ว มีความปลอดภัยและคุ้มค่า ทั้งนี้ทั้งนั้นการฉีดฟิลเลอร์ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องจึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

          หากผู้อ่านท่านใดที่ต้องการสอบถามเพิ่มเติม หรือขอคำปรึกษาเรื่องและคำแนะนำเรื่องการฉีดฟิลเลอร์คางสามารถติดต่อสอบถามกับหมอเบญได้โดยตรงที่คลินิกเสริมความงาม Malika Clinic by Dr. Ben ตั้งย่านลาดพร้าว – วังหิน (ระหว่างซอยลาดพร้าว วังหิน 65 และ 67) หรือสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 095-450-9355, Line ID: @malikaclinic สามารถขอคำปรึกษาและส่งรูปมาให้หมอเบญประเมินเบื้องต้นก่อนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ